วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Review: Lush - Breath of God

Lush - Breath of God

การท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆ แล้วได้รับกลิ่นอายสภาพแวดล้อมจากสถานที่นั้นๆ มักเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์น้ำหอมของหลายๆ แบรนด์มาเสมอ ซึ่งในหลายๆ รุ่นถือว่าสื่อสารกลิ่นถึงสถานที่นั้นๆ ออกมาได้อย่างงดงามมาก เห็นภาพหลังจากได้รับกลิ่นตามประสบการณ์ที่เคยได้ไปจริงๆ หรือดูจากรายการท่องเที่ยว รวมถึงเห็นภาพสถานที่นั้นๆ ผ่านสื่อต่างๆ มาก่อน แม้ว่าคนใช้จะไม่เคยไปสถานที่นั้นก็ตามเลยก็ว่าได้

และหนึ่งในกลิ่นที่สร้างสรรค์ออกมาของแบรนด์ Lush ก็เดินตามรอยการถอดกลิ่นสภาพแวดล้อมโดยมีที่มาจากการท่องเที่ยววิหารบนภูเขาสูง ณ ธิเบต ที่ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาของโลก โดยชื่อรุ่นสื่อสารออกมาชัดเจนมากอย่าง Breath of God ที่หายใจเข้าคือกลิ่นสดชื่น หายใจออกคือความขลัง เช่นนั้น กลิ่นนี้มีความน่าสนใจแค่ไหน ว่ากันได้เลยที่ย่อหน้าถัดไป

เปิดตัวกลิ่นมาได้แบบเข้มข้นและชัดเจนมากโดยจะมีเลเยอร์กลิ่นที่เป็น 2 โทนอยู่ในเวลาเดียวกัน ซึ่งจะได้รับความเต็มเหนี่ยวกันก่อนเลยจากกลิ่นอายเย็นจมูกที่มีโทน Citrus ติดโทนเปรี้ยวเจือขมติดหวานปลายของเลมอนและมีโทนติดเปรี้ยวแปร่งสว่างของเกรปฟรุตแบบที่ไม่ได้ออกทางกลิ่นติดเปรี้ยวมาก รวมถึงมีลูกเล่นของดอกส้มที่สกัดด้วยไอน้ำออกเขียวติดเปรี้ยวติดนวลปลายกลิ่นของ Neroli ที่วูบมาในวินาทีแรกก่อนจะถาโถมด้วย Second Wave อย่างกลิ่นเมล่อนติดเขียวแต่ไม่ได้ออกทางหวานแต่ค่อนมาทาง Smoky เจือกลิ่น Incense ปนไม้หอมขรึมแน่น ทำให้กลิ่นสาย Citrus ในช่วงต้นกลายเป็นตัวสนับสนุนกลิ่นแบบเป็นบรรยากาศรายรอบในทันที ซึ่งแน่นอนว่าบอกชัดเจนถึงหายใจเข้าไปอากาศสดชื่นเย็นปร่าจมูก (แต่แค่แว้บเดียว) แต่หายใจออกที่เป็นกลิ่นขรึมขลังนั้นมาเต็มเหนี่ยวกันเลย

การเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมกลิ่นที่เข้มและปล่อยพลังจากช่วงแรกจะเริ่มมีโทนอื่นเข้ามาตัดทอนมากขึ้น ซึ่งกลิ่นโทนเย็นๆ ของบรรยากาศยังคงมีอยู่ให้จับต้องได้ประปราย โดยที่เมนหลักอย่างกลิ่นเมล่อนติดควันธูปยังคงชัดเจนอยู่ เพียงแต่มีความนวลของโทนดอกไม้เข้ามาประปรายเนียนๆ ซึ่งดอกส้มก็ยังมีอยู่ เสริมด้วยกลิ่นกระดังงาอ่อนๆ รวมถึงมีกลิ่นพริกไทยที่เข้ามามีอิทธิพลสูงเลยทีเดียวในช่วงนี้ ทำให้กลิ่นมีความนวลมากขึ้นแต่ก็ยังคุมโทนความขรึมขลังของความเป็นธูปหอมเคล้ากับกลิ่นควัน Smoky ติดเขียวของ Cade Oil ซึ่งเป็นน้ำมันสกัดจากสนจูนิเปอร์ประเภทหนึ่งโดยมที่พื้นกลิ่นจะมีความแน่นของไม้สนซีดาร์ที่ให้ความปร่าขรึม ความเป็นไม้แห้งๆ ของหญ้าแฝก และปลายกลิ่นเป็นไม้จันทน์หอมที่ให้ความจืดหอมเจือหวานเล็กๆ อยู่ ง่าย คือ กลิ่นยังคงแน่นชัด แต่ไม่พุ่งจัดจ้านเท่าช่วงแรกแล้ว

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นที่เดิมทีคาดการณ์เอาไว้ว่ากลิ่นช่วงท้ายความเป็นโทนเย็นๆ ของบรรยากาศน่าจะหายไป แต่กลับกลายเป็นคาดผิด เพราะว่ากลิ่นโทนเย็นๆ ประปรายของบรรยากาศยังคงตัวเสถียรอยู่ เพียงแต่กลิ่นจะไม่ได้มีความเป็น Citrus ให้จับต้องได้แล้ว แต่จะเป็นอากาศเย็นๆ กึ่งปร่านวลของพริกไทยที่เข้ามารับช่วงต่อตีคู่กับเมล่อนติดจืดหอมได้อย่างสวยงามซึ่งเนื้อกลิ่นหลักจะเริ่มเป็นโทนไม้หอมมากขึ้นตามลำดับโดยตัวเด่นคือไม้ซีดาร์ที่จะคลอไปกับกลิ่นโทนธูป Incense มีความแห้งๆ ของกลิ่นไม้ที่เจือ Earthy ดินแห้งบางๆ ของหญ้าแฝกและมีกลิ่นไมัจันทน์หอมนวลปลายกลิ่น ซึ่งกลิ่นจะให้อารมณ์ขลังเช่นเดิม โดยที่ไม่ได้สว่างเจิดจ้าเกินไปและไม่ได้ดาร์กดำดิ่งเกินไป ซึ่งมีความสมดุลย์พอดีและกลิ่นมีความเรื่อยๆ ไม่หนักหน่วงเท่าช่วงก่อน มีความสวยงามทางกลิ่นโดยไม่ทำให้อารมณ์กลิ่นเปลี่ยน โดยยังคุมคอนเซปท์ หายใจเข้าคือความสดชื่นเย็นๆ และหายใจออกคือความขลังได้ลงตัวเช่นเดิม

เหมาะสำหรับ - ทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป เพราะกลิ่นอายมาจากการถอดกลิ่นสภาพแวดล้อมมา (แม้จะเข้มข้นมากก็ตาม) ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะเป็นทางการและทั่วๆ ไป แต่ให้เบามือหน่อย เพราะกลิ่นมีความชัดจัดเต็มปล่อยพลังกันมากพอตัว ซึ่งให้จัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งอากาศร้อนๆ หรือออกกำลังกายไปได้เลย เดี๋ยวกลิ่นจะตีขึ้นจนจุกคอหอยเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ทั่วๆ ไปหรือออกงานก็พอได้อยู่ในการสร้างออร่าความขรึมขลังเจือสดชื่น แต่ถ้าจะเอาไปใส่เพื่อยั่วยวนบอกเลย “แป้ก” แน่นอน  

ความทน - มากกกกกก ถึงมากที่สุด เพราะความทนเป็นเลิศจริงๆ กับการยืนพื้นที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และลากยาวต่อไปที่ 12 ชม. เลยก็ย่อมได้ ซึ่งส่วนตัวใช้เพียง 4 สเปรย์ กลิ่นยาวนานถึง 15 ชม. เลยทีเดียว

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมาก มาเต็มปล่อยพลังกันสุดติ่งกันตั้งแต่ช่วงแรก แล้วจะลดลงมากระจายดีกันยาวๆ ไป พอพ้นซัก 6 ชม. ถึงผ่อนลงมาที่ปานกลาง แล้วลดทอนลงไปเรื่อยๆ จนเป็นออร่ารอบๆ ตัวไปจนกว่าน้ำหอมจะพอใจ

สรุป - เป็นการผสมผสานกลิ่นที่สร้างภาพออกมาได้ชัดเจนและกลิ่นเองก็มีความเข้มข้นแบบเต็มที่ด้วยจริงๆ ในการเล่ากลิ่นอายของสภาพแวดล้อม เพราะจะได้ทั้งวูบอากาศเย็นๆ สดชื่น ตามด้วยกลิ่นอายธูปผงเนื้อไม้หอมที่ให้ความเป็นไม้เจือเขียวเข้มแบบอารมณ์สักการะวิหารบนบนเขาสูงที่มีอากาศหนาวๆ ได้ดีมาก และที่สำคัญชื่อกลิ่นสื่อสารได้ขลังด้วย เช่นนั้นถือเป็นอีกกลิ่นที่มีความชัดเจนในการสื่อสารถึงลมหายใจของพระเจ้าที่หายใจเข้าจะเป็นอากาศสดชื่นเย็นๆ และหายใจออกจะเป็นกลิ่นอายขลังๆ ได้ดีจริงๆ ซึ่งถ้าพื้นฐานชอบกลิ่นอายสายธูปและอากาศเย็นๆ อยู่แล้วบอกเลยว่ากลิ่นนี้จัดเต็มให้ได้ทุกสโตรกเลย    

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - เข็มขัดสั้น


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น