วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Review: Ralph Lauren - Song of America: Sage


Ralph Lauren - Song of America: Sage

เมื่อแต่ละแบรนด์สาย Designer ต่างก็ปล่อยของด้วยการสร้างน้ำหอมสาย Exclusive และ Luxury ต่างๆ เพื่อสร้างความ High-end และความน่าสนใจในการสร้างประสบการณ์กลิ่นต่างๆ มีหรือที่แบรนด์สัญชาติอเมริกันอย่าง Ralph Lauren จะไม่ลงมาจับตลาดนี้กับเขาด้วย ซึ่งก็ได้ออกมาเป็น Luxury Collection ออกมาวางจำหน่ายพร้อมกันในปี 2016 ถึง 6 กลิ่นเลยทีเดียว โดยจะมี Concept และที่มาที่ไปในการสร้างสรรค์กลิ่นออกมาจะเน้นไปที่ “ประสบการณ์จากการท่องเที่ยว” โดยในแต่ละสถานที่ในการเดินทางไป จะมีกลิ่นน้ำหอม 2 กลิ่นที่สื่อสารออกมาให้เห็นถึงความเป็นจุดหมายปลายทางนั้นๆ ผ่านคำโปรยที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น Riviera Dream, Potrait of New York, Legacy of English Elegance, Treasures of Safari และ Song of America

เช่นนั้นเมื่อได้มาแตะต้องความหรูหรา Luxury ของแบรนด์นี้กับรุ่นแรกที่มีโอกาสได้ครอบครองอย่าง Song of America - Sage ก็ต้องมาเล่าหน่อยว่าจะสื่อสารกลิ่นอายออกมาอย่างไรบ้าง

Sage คือกลิ่นอายหลักที่จะอยู่กันอย่างยาวๆ ไปจนถึงช่วงท้ายของน้ำหอมเลย จะเริ่มต้นกลิ่นด้วยการผสมผสานระหว่างโทนสดชื่นที่มีความเขียวแบบกลิ่นอายคล้ายเวลาเราขยี้ใบไม้หรือใบสมุนไพรแล้วกลิ่นฟุ้งออกมาเคล้าไปกับบรรยากาศที่มีความสดชื่นกึ่งชื้นๆ ในยามเช้า ซึ่งเนื้อกลิ่นจะจับต้องได้ถึงกลิ่นโทนเขียวติด Stem ที่ให้กลิ่นอายกลิ่นเขียวสดชื่นติดเมือกหน่อยๆ ที่เป็นธรรมชาติ กลิ่นใบหญ้าเขียวหอมสดชื่น กลิ่นสมุนไพรเขียวกึ่งมินต์เย็นๆ มีความชื้นๆ ในไสตล์ของ Sage และกลิ่นบรรยากาศที่มีโทน Citrus ติดขมเปรี้ยวอ่อนๆ ประปราย ซึ่งจะผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ให้ความเป็นธรรมชาติสดชื่นที่เรียบง่าย โดยอิงโทนกลิ่นแบบสายมินิมัล “น้อยแต่มาก” ได้อย่างรื่นรมย์

และเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางก็จะเริ่มจับกลิ่นสายติดเขียวเจือหวานติดเขียวทึบค่อยๆ เปิดตัวออกมาของลูกมะเดื่อ (Fig) พร้อมกับกลิ่นออกทางติดโทน Aquatic ที่ให้ความเป็นกลิ่นอายกึ่งผลไม้เขียวติดหวานกลิ้นโทนน้ำที่มีกลิ่นเขียวๆ ติดเมทัลลิคนิดๆ คล้ายใบไวโอเล็ตเข้ามาร่วมด้วย แต่ก็ไม่ได้ทึบมากนัก แน่นอนว่าความเป็น Sage จะเริ่มมีโทนอะโรม่าสร้างความเป็นโทนสมุนไพรปลอดโปร่งกำลังดี เมื่อมาผสมผสานกัน กลิ่นจะได้ความกึ่งอวลกึ่งนวลกึ่งใสในโทนที่ยืนพื้นด้วยความเขียว ที่มีอารมณ์ติดกลิ่นน้ำที่มีความอวลหวานกำลังดี เข้าทางการเป็นกลิ่นอายแบบ Green Aromatic ที่สร้างความผ่อนคลายสดชื่นและมีความฉ่ำโดยแท้

เมื่อความฉ่ำของเนื้อกลิ่นเริ่มเบาลงไปตามลำดับ และมีกลิ่นอายไม้หอมติดดึ่งยางที่มีความปร่าเขียวมีความหวานนิดๆ ที่เป็นลักษณะของกลิ่นสน Fir เข้ามามากขึ้น กลิ่นเริ่มพัฒนาไปสู่ช่วงท้ายของน้ำหอม กลิ่นของ Sage ที่ยังตามมาในช่วงนี้จะยังมีความเป็นโทนอะโรม่าอยู่แต่จะเริ่มมีลักษณะกึ่งชอคโกแลตเจือเขียวหน่อยๆ ตามธรรมชาติที่ Sage จะมีกลิ่นนี้เนียนๆ ให้จับต้องได้อยู่ ซึ่งเมื่อมาเจอกับโทนเขียวปร่าเจือไม้หอมกลิ่นเลยจะมีความอวลขึ้นมาพอสมควร และเมื่อดมลงไปใกล้ๆ มากขึ้นจะได้อารมณ์กลิ่นของไม้หอมที่ค่อนข้างชัด โดยที่จะมีอารมณ์กลิ่นคล้ายโทนไม้หอมโปร่งๆ ติดขรึมของซีดาร์จากสารหอม ISO E Super และมีโทนกลิ่นติดอวลไม้หอมกึ่งอุ่นผิวกายหน่อยๆ แบบ Ambroxan ที่เสริมโทนกลิ่นออกติดปร่าเขียวของสน Fir โดยที่มี Sage เป็นตัวสร้างออร่าสมุนไพรติดชอคโกแลตอ่อนๆ ประปรายเนียนๆ ในเนื้อกลิ่นให้มีลูกล่อลูกชนทางกลิ่นไม้หอมติดอวลปนสมุนไพรที่เข้ากับโทนน้ำหอมสาย Modern ที่เป็นที่นิยม และหอมแบบเข้าถึงง่ายโดยไม่ซับซ้อนและสามารถสร้างคำชมได้ได้ยาก

เหมาะสำหรับ - Unisex แต่ค่อนไปทางผู้ชายในช่วงท้าย แต่ก็ไม่ได้สลักสำคัญอะไรเพราะกลิ่นใช้ง่ายเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าเพศไหนก็เอาอยู่ ซึ่งกลิ่นจะกวาดหมดในทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป แถมให้ความเป็นธรรมชาติในเนื้อกลิ่นได้ดีมากอีกด้วย ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบสบายๆ ทั่วๆ ไปจะดีกว่า แต่ถ้าจะท่องราตรีเอาจริงๆ อัดสเปรย์หน่อยก็ไปลานเบียร์ได้อยู่ เพียงแต่ถ้าเข้าพวกผับหรือคลับอาจจะโดนสายอวลหวานเข้มหนักต่างๆ กลบเอาเสียเปล่าๆ

ความทน - บอกเลยว่าาเป็นกลิ่นสดชื่นที่ทนมาก มากจนเรียกว่าเกินคาดก็ว่าได้ เพราะสิ่งที่เจอคือ 15 ชม. กลิ่นยังอยู่ กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ อันนี้ดีงามจริงอะไรจริง ซึ่งถ้าตีเป็นค่าเฉลี่ยก็ 8 ชม. ได้เลย

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น สร้างความรื่นรมย์ในโทนเขียวธรรมชาติได้อย่างดงาม แล้วจะลดลงมากระจายปานกลางแบบยาวๆ ไปจนรถึงช่วงท้ายเลย พอพ้นซัก 8 ชม. ถึงลงไปเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไป

สรุป - ต้องยอมรับเลยว่ากลิ่นนี้ให้อารมณ์สมกับการเป็น Song of America ที่สื่อเพลง Country กึ่งบ้านไร่ชายทุ่งธรรมชาติ แต่มีความ Modern สูงและร่วมสมัยได้ดีมากเลยทีเดียว

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.parfumo.net/Perfumes/Ralph_Lauren/Song_of_America__Sage


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น