Maison Francis Kurkdjian - Amyris Homme
Amyris หรือจะเรียกเป็น West Indie Sandalwood ก็ได้ เป็นหนึ่งในพืชที่จะมียางในต้นไม้ที่ให้กลิ่นอายเข้มข้นมาก โดยมีลูกผสมที่อยู่ระหว่างการเป็นไม้จันทน์หอมเจือความเป็นไม้ซีดาร์ ติดไม้สนไพน์และมีกลิ่นโทน Citrus ค่อนไปทางเปลือกส้มหน่อยๆ เจืออยู่ โดยภาพรวมจะมีความปร่านวลเข้มๆ ซึ่งกลิ่นอายลักษณะนี้เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่มีความน่าสนใจมากในการนำมาสร้างสรรค์น้ำหอมที่มีลูกผสมของการเป็นโทนสดชื่นติดยางไม้แบบสาย Cool ได้ดีเลยทีเดียว
ซึ่งหลายๆ แบรนด์ต่างก็เอา Note กลิ่นนี้มาเป็นหนึ่งในการสร้างมิติกลิ่นมานักต่อนัก รวมถึง Maison Francis Kurkdjian เองที่เอามาเป็นตัวชูโรงสร้างกลิ่นอายสายดูโอชายหญิงตั้งแต่ปี 2012 และก็กลายเป็นตัวยอดนิยมของแบรนด์จนถึงทุกวันนี้ และหลังจากพะเน้าคลอเคลียกับรุ่นผู้ชายนี้มาพอสมควร ก็ได้เวลามาไล่เรียงกันหน่อยว่ากลิ่นอายนี้จะสื่อสารออกมาอย่างไร และ Amyris Homme ก็บอกออกมาแบบนี้เลย
เปิดมาความแมนก็มาชัดมากับกลิ่นโทน Fresh Spicy ที่มีพื้นฐานกลิ่นกึ่งโทนสมุนไพรที่มีความปร่าซ่ากึ่งเพพเพอร์มินต์ แต่ไม่ได้เผ็ดวูบขึ้นมาเท่าเพราะมีโทนเมนทอลมาทำให้กลิ่นมีความปร่าอะโรม่ากำลังดีของโรสแมรี่ เสริมด้วยโทน Citrus ที่เป็นลักษณะกลิ่นคล้ายเปลือกส้มและมีความเป็นกลิ่นส้มหน่อยๆ ที่สร้างความสดชื่นให้เนื้อกลิ่นเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งทำให้วูบแรกของกลิ่นที่อยู่คงค้างราวๆ 5 นาที จะเป็นลักษณะโทนกลิ่นสดชื่นแมนๆ ที่ให้อารมณ์ Cool และสมาร์ท ซึ่งบางวูบจะได้ความรู้สึกแบบโทนกลิ่น Niche Perfume ใช้ง่ายที่ใกล้ความเป็น Designer ที่เนื้อกลิ่นคุณภาพสูงกันได้เลยทีเดียว และเมื่อกลิ่นโทนออกทางกลิ่นนวลกึ่งปร่ามีความหนาขึ้นมาอีกสเต็ปค่อยๆ เปิดตัวออกมาจนจับต้องได้ว่าเป็นกลิ่นของ Amyris ที่มีความนวลติดจืดแบบไม้จันทร์หอมแต่ติดปร่าแบบไม้ซีดาร์และมีความสะอาดแบบไม้สนไพน์ ก็เริ่มเข้าสู่ไฮไลท์ของน้ำหอมในการปูทางเข้าสู่ช่วงกลางตามลำดับ
เมื่อกลิ่นยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงคือ Amyris เป็นตัวหลักในการเดินกลิ่น คุมโทนไม้หอมปร่านวลเจือโทนสว่าง และมีกลิ่นโทนติดอับคล้ายแป้งหน่อยๆ ของไอริสปนกลิ่นดาร์กโกโก้ที่สร้างโทนเข้มซ้อนอยู่ในเนื้อกลิ่น รวมถึงปลายกลิ่นจะได้กลิ่นออกทางคล้ายน้ำมะพร้าว แต่ก็ไม่ได้ไปสายขนมแต่อย่างใด เพราะ Cooling Effect ที่ได้จากกลิ่นโทนสมุนไพรของโรสแมรี่ยังตามมาอยู่ในช่วงนี้ ทำให้โทนกลิ่นจะปิดทิศทางในการไปสายขนมชัดเจน แต่จะให้โทนกลิ่นปร่าปนไม้หอมติดดาร์กอวล มีความแมนแอนด์แฮนซั่มน่าค้นหาแบบอารมณ์สมาร์ทมาเลย ซึ่งจะมีทั้งความฟุ้งอวล ปร่านวลแต่ก็ไม่ได้ข้นหนักหน่วง เน้นแผ่ออกรอบตัวสร้างออร่าบาเรียเสียมาก จนเมื่อจับต้องกลิ่นออกทางติดขมเจือไม้มีความเข้มค่อนไปทางกาแฟ ที่เข้ามารับช่วงต่อในการสร้างโทนดาร์กแมน สถานะกลิ่นเลยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงท้ายที่ความเป็นปร่านวลครีมหอมค่อนไม้จันทน์หอมของ Amyris ยังคุมโทนอยู่แต่จะเริ่มมีกลิ่นออกทางเย้าลึกเจือหนังที่มีความขมติดหวานหอมของหญ้าฝรั่น รวมถึงมีกลิ่นที่ติดหวานนวลเจือเขียวหญ้าแห้งปนยาสูบหน่อยๆ ที่เป็นตัวตอกย้ำความแมนลงไปอีกอย่างจากถั่วตองก้าเสริมเข้ามา ทำให้กลิ่นจะสร้างอะโรม่าของโทนไม้หอมเจือยางไม้ปนอวลที่ชัดและคุมโทนความแมนในเนื้อกลิ่นได้ดีโดยที่มีการเกลากลิ่นได้อย่างลงตัวและสมดุลย์ ไม่ได้ดูพยายามยัดเยียด แต่ให้ความเป็นกลิ่นอายสไตล์ผู้ชายที่คุมโทนผู้ชายเท่ห์ๆ Cool ที่มีลุคสไตล์ Smart Casual ที่จะไปทางเนี้ยบก็ได้ จะไปทางเท่ห์ก็สามารถ ที่สำคัญกลิ่นมีความร่วมสมัยที่มีความทันสมัยเพราะลักษณะกลิ่นตั้งแต่ต้นยันจบ แอบมีความ Classic ของกลิ่นอายสายสมุนไพรเนียนๆ ที่ทำให้จะมองเป็นโทนสุภาพบุรุษติดอวลหน่อยก็ย่อมได้นั่นเอง
เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานได้แล้ว ซึ่งกลิ่นจะเน้นความแมนที่ชัดเจนและเสริมความหล่อทางกลิ่นได้ไม่ยาก เพียงแต่จะไม่ได้สร้างโทนที่ลั่นล้าหรือยั่วเย้าจงใจอะไรขนาดนั้น เพราะเน้นสมาร์ทและ Cool มากกว่า เลยเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไปแบบเน้นลุค Smart Casual จนถึงเนี้ยบสุภาพบุรุษ จะมีก็แต่ใส่เพื่อออกกำลังกายที่อาจจะต้องเบามือเบาสเปรย์นิดนึง เพราะกลิ่นฟุ้งใช่ย่อยเดี๋ยวตึ้บเข้าให้แทน ส่วนยามค่ำคืน บอกเลยว่ากลิ่นนี้ครอบจักรวาลใส่ได้หมดทั้งออกงานและท่องราตรีแบบมีระดับและมีคลาส
ความทน - กลิ่นทนดีมากจริงๆ กับพื้นฐานที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และไปต่อได้อีก โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. ที่ยังไม่หมดฤทธิ์ในการส่งกลิ่นให้รับรู้ แถมยังติดผิวลากไปต่อถึง 15 ชม. ได้อีก เรียกว่าเป็น EDT ที่ความทนสะใจจริงๆ
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะลดลงมากระจายดีกันยาวๆ ไปพอสมควร ก่อนจะผ่อนลงมาปานกลางจนราวๆ 6 ชม. ถึงเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไป จนถึงราว 8-12 ชม. ที่จะเริ่มติดผิว (อิงตามแต่ละสภาพผิวผู้ใช้)
สรุป - อีกหนึ่งกลิ่นแมนๆ ที่ไม่ได้พยายามโชว์ความแมนจัดยัดเข้ารูจมูก แต่จะให้ความแมนแบบมีคลาส มีความ Smart และก็มีความครอบจักรวาลในการใช้ที่ดีเลยทีเดียว ซึ่งเอาจริงๆ ก็ใช้คำว่าแมนแบบชิคๆ ที่มีเสน่ห์ก็ยังได้เลย ที่สำคัญ MFK เองไม่ได้ทำน้ำหอม Niche ที่ต้องปีนบันไดใช้ เช่นนั้นกลิ่นนี้ถือเป็น Niche ใช้งานที่เอาใจคนชอบน้ำหอมแมนๆ สาย Designer ด้วยเช่นกัน
หมายเหตุ:
1.
Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - https://makeup.com.ua/product/101498/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น