วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2563

Review: Maison Francis Kurkdjian - L’Homme A La Rose

Maison Francis Kurkdjian - L’Homme A La Rose

จากความสำเร็จของการสร้างสรรค์กลิ่นอายสไตล์กุหลาบทั้งแบบกุหลาบระเรื่อธรรมชาติในรุ่น A La Rose และกุหลาบสดชื่นสีชมพูสว่างสดใสในรุ่น L’Eau A La Rose คราวนี้ก็ได้เวลามาแปลงสารความเป็นกุหลาบสายนี้ในการเป็นน้ำหอมชายกันบ้าง และก็ออกมากันเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับรุ่นนี้ L’Homme A La Rose

ซึ่ง Maison Francis Kurkdjian จะเอาความเป็นกุหลาบที่มีมุม Feminine สูงมาปรับให้เป็นกลิ่นอายที่ผู้ชายใส่แล้วจะสร้างกลิ่นอายออกมาแบบไหน เช่นนั้นได้เวลาใช้แล้วบอกต่อกันเต็มๆ แบบนี้เลยว่า

สปอยก่อนลงรายละเอียดว่า “ทำได้ดีเกินคาด” เพียงแต่กุหลาบจะไม่ได้เป็นตัวเอกของกลิ่น แต่มาเป็นองค์ประกอบที่จะมีให้จับต้องได้ทุกช่วง อารมณ์จะแบบเหมือนเพื่อนพระเอกหรือผู้ช่วยพระเอกที่บทบาทไม่ได้เด่นแต่ก็อยู่ข้างพระเอกจนละครจบ ไม่ได้ล้มหายตายหรือแย่งซีนมาเด่นเกินหน้าเกินตาใครแต่อย่างใด ซึ่งถ้าลงรายละเอียดก็จะแยกออกมาได้แบบนี้เลยว่า

ช่วงต้นจะเป็นการเปิดตัวกลิ่นในการเป็นโทนสว่างและสดชื่นแบบกำลังดีด้วยกลิ่นอายของโทนเกรปฟรุตที่จะพุ่งออกมาสร้างความเป็น Citrus ติดแปร่งสว่างกันก่อนเลย แต่กลิ่นจะไม่ได้คมเปรี้ยวจี๊ดแต่อย่างใด เพราะเนื้อกลิ่นจะมีกลิ่นออกทางติดเขียวคล้ายโทนดอกส้มที่สกัดแบบไอน้ำ (Neroli) ที่จะให้ความสดชื่นติดเปรี้ยวเขียวแล้วตามด้วยนวลปลายกลิ่นก่อนในวูบแรก ตามด้วยการแท็คทีมสร้างความเป็นโทนติดสมุนไพรหอมปร่ากึ่งพริกไทยนวลๆ คล้ายเพพเพอร์มินต์ที่มาแบบเบาๆ แต่มันจะมีเลเยอร์ติดขมและมีความคาวหน่อยๆ เข้ามาตามลักษณะกลิ่นของ Sage ที่ทำให้กลิ่นมีความเป็นโทนกลิ่นสไตล์ผู้ชายที่มีลูกเล่นเลเยอร์กลิ่นชของ Citrus Herbal Aromatic ที่ชัดเจนพอสมควร ซึ่งช่วงนี้ถ้าพื้นเพเดิมใครที่ Sensitive กับกลิ่นคิดคาวคล้ายโทนน้ำเมือกติดเขียวหน่อยๆ อาจจะร้องออกมาได้เลยว่า “เอิ่ม” แต่เพราะเนื้อกลิ่นมีตัวซ้อนซ่อนอยู่ด้านหลังอย่างกุหลาบหอมนวลเลยทำให้ตัดทอนกับกลิ่นสมุนไพรเจือคาวอ่อนๆ ตามธรรมชาติแบบที่ทำให้กลิ่นเริ่มสมดุลย์และดีขึ้นตามลำดับ

และเมื่อเริ่มจับต้องได้ถึงกลิ่นโทนไม้หอมติดอวลๆ มีความอุ่นติดเค็มหน่อยๆ และมีความอวลกระจายของกลิ่นไม้แห้งๆ ที่เริ่มเปิดตัวเข้ามาเนียนๆ แบบที่ค่อนข้างชัดเจนว่ากลิ่นนี้มีองค์ประกอบของ Amberwood หรือโทนกลิ่นแนว Ambroxan (สารสังเคราะห์ที่ใช้แทน Ambregris หรืออำพันปลาวาฬ) ที่เพิ่มเติมเอาความเป็นไม้หอมติดแห้งเข้าไป ก็จะเปลี่ยนสถานะในการเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอมที่ชัดเจน โดยคราวนี้กุหลาบจะเริ่มมีความชัดขึ้นมาอีกระดับ ให้ความนวลหอมอะโรม่าติดหวานโรแมนติดแบบกำลังดีกับโทนอบอุ่นอวลไม้หอมเจือกลิ่นคล้ายผิวกายติดเค็มนวล รวมถึงกลิ่นจากช่วงต้นต่างๆ จะยังมาสร้างออร่าสดชื่นบางๆ เคล้าสมุนไพรปร่าของ Sage ที่ความคาวเริ่มจางไป กลิ่นเลยจะได้ความอบอวลแบบกำลังดี มีความเป็นโทนอบอุ่นอวลไม้หอมที่ On Top เนื้อกลิ่นด้วยกุหลาบนวลได้ลงตัวมาก ซึ่งบอกเลยว่าช่วงนี้แหละ คือ ไฮไลต์ของกลิ่นและสร้างอัตลักษณ์ที่ชัดเจนในการเป็นกุหลาบแบบผู้ชายลงตัวตามชื่อรุ่นว่า L’Homme A La Rose และมีความเป็นกลิ่นที่เข้าเทรนด์กลิ่นน้ำหอมยอดนิยมที่มีพื้นกลิ่นเป็นสไตล์ Ambroxan เพิ่มไม้หอมแบบที่สร้างความดึงดูดในยุคสมัยนี้เป็นอย่างยิ่ง

จากช่วงกลางบอกเลยว่าช่วงท้ายไม่แปลกใจที่กลิ่นโทน Amberwood จะยืนหนึ่งเคล้ากลิ่นโทนอบอุ่นที่มีมากขึ้นจากกลิ่นโทนสไตล์ Amber ที่มีความลึกอวลติดปลายกลิ่นหนังเล็กๆ และมีกลิ่นคล้ายๆ โทนเขียวหญ้าแห้งเจือวานิลลาจากสารหอมแนว Coumarin ที่สกัดจากถั่วตองก้า โดยจะมีความหวานอวลและสร้างออร่ากลิ่นโทนผู้ชายอบอุ่นเสริมเข้ามาอีกดอกตอกย้ำกันไปเลยว่า L’Homme กันอย่างชัดๆ ซึ่งความนวลกุหลาบจะยังตามมาจากช่วงกลางให้ความระเรื่อคลอแบบผ่อนคลายและโรแมนติคเนียนๆ ในเนื้อกลิ่นอยู่ ซึ่งคุมโทนกันยาวๆ ในการเป็นกลิ่นอายสาย Woody - Ambery ที่ให้ความกำลังดี อวลกระจายอย่างมีชั้นเชิงแบบที่ไม่ได้ดูพยายามโชว์ของ แต่ให้ความระเรื่อมีเสน่ห์แบบผู้ชายมีระดับ อบอุ่น โรแมนติค มีเสน่ห์เย้ายวน และทันสมัยแบบที่ยังไงใส่แล้วก็รอดทางด้านกลิ่นอย่างมีชั้นเชิงสูงมาก

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใส่ตัวนี้ได้สบายมาก กลิ่นมีความทันสมัยที่ยังไงก็บ่งบอกถึงน้ำหอมชายที่ Trendy สูงมากและอยู่กันไปต่อยาวๆ อีกนาน ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใช้ได้ในแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไปใส่ได้ยังไงก็หล่อ แต่จะมีแค่การใส่เพื่อออกกำลังกายที่ไม่เข้าทางนักเพราะกลิ่นมีความอวล เดี๋ยวจะตีขึ้นจนจุกเสียก่อนทั้งคนใช้เองและคนรอบข้างเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนเหมาะมากกับการใส่ออกงานเพราะกลิ่นมีความเป็นผู้ชายโรแมนติคที่ทันสมัยเลยล่ะ รวมถึงการใส่ท่องราตรีบอกเลยอัดสเปรย์หน่อยไปสู้กับคนอื่นๆ สายอวลได้สบายมาก

ความทน - กลิ่นทนมากจริงจัง ยืนพื้นก่อนเลยที่ 8 ชม. และไปต่อกันได้อีก เพราะ Amberwood เองเป็นตัวที่เสริมเรื่องความทนอยู่แล้วด้วย เช่นนั้นสูงสุดที่เจอคือ 18 ชม. อาบน้ำไปแล้วกลิ่นยังติดจางๆ อยู่เลย อันนี้ดีงาม

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะพีคขึ้นมากระจายดีมากในช่วงกลางกันยาวๆ ไป พอเข้าช่วงท้ายจะยังคงความดีงามในการกระจายอยู่ไปพอสมควรก่อนจะค่อยๆ ผ่อนลงตามลำดับ จนเมื่อเข้าราวๆ 10 ชม. กลิ่นจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ที่ยังไงคนรอบข้างก็ยังได้กลิ่นอยู่

สรุป - พื้นฐานดี รู้ใจลูกค้าผู้ชายยุคใหม่ จับ Trend กลิ่นได้อย่างอยู่หมัดและปรับแต่งให้เป็นสไตล์ของแบรนด์ บอกเลยว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้วสำหรับกลิ่นนี้ ซึ่งแม้ว่ากุหลาบจะไม่ได้เด่นมาก แต่ยังไงก็จับต้องได้อยู่เรื่อยๆ ไม่หนีไปไหน ซึ่งถ้าเคยผ่านและอิน Gentle Fluidity Silver ของแบรนด์นี้มาก่อน บอกเลยว่าอาจจะโดน L’Homme A La Rose ตกเข้าให้ เพราะพื้นฐานกลิ่นมีโทนเดียวกันเป็นตัวเอก ต่างกันที่กลิ่นนี้มีกุหลาบเป็นตัวช่วยเสริมโทนโรแมนติคเข้าไปมากขึ้นนั่นแล

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.fragrantica.com/news/Maison-Francis-Kurkdjian-L-Homme-%C3%80-la-Rose-14027.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น