วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2563

Review: Atelier Cologne - Philtre Ceylan

Atelier Cologne - Philtre Ceylan

“ชาซีลอน” ชื่อนี้หลายๆ คนที่เป็นสายดื่มชาน่าจะได้เคยลองกันมาพอสมควรแล้วกับการเป็นชาดำที่ขึ้นชื่อมากในเรื่องอะโรม่าที่ให้รสชาติติดสดชื่นของ Citrus เจือเครื่องเทศปนชอคโกแลต ซึ่งกลิ่นจะให้ความเข้มชัดและมีความเฉพาะตัว  ซึ่งถือเป็นชาที่มีชื่อเสียงมากระดับโลกและมีแหล่งเดียวที่ทำการเพาะปลูกได้นั่นคือ ศรีลังกา

แต่เราไม่ได้มาว่ากันเรื่องการเทสชา เพราะเราจะคุยกันเรื่องของน้ำหอมของ Atelier Cologne ที่ได้เปิดตัว Collection - Orient ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากความเป็นธรรมชาติ ผู้คน ขนบธรรมเนียมต่างๆ อ้างอิงแถบ Asia และตะวันออกกลาง ซึ่งจะเน้นในการชูโรงกลิ่นอายต่างๆ ที่เป็นของล้ำค่าในดินแดนนั้นๆ เมื่อปี 2016 ถึง 5 รุ่น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีการชูโรงน้ำหอมกลิ่นชาซีลอนเข้ามาร่วมด้วยอย่าง Philtre Ceylan เช่นนั้นใช้แล้วจึงต้องบอกต่อเล่ากลิ่นกันหน่อยว่าการถ่ายทอดกลิ่นอายความเป็นชาประเภทนี้สู่การเป็นน้ำหอมจะเป็นอย่างไรบ้าง

เปิดต้นกลิ่นมาอย่างแรกที่มีความชัดเจนมากเลย คือ กลิ่นเครื่องเทศที่จะจับได้ 2 โทนเด่นคือยี่หร่าที่ให้กลิ่นออกแนวติดสาบคล้ายเหงื่อปนเครื่องเทศ อารมณ์กลิ่นคล้ายเครื่องเทศที่ซึมกระจายออกจากผิวกายที่วูบขึ้นมาพร้อมกับกลิ่นออกแนวเผ็ดเจือหวานหน่วงๆ หน่อยๆ ปนเย้ายวนของกระวาน แต่กลิ่นจะไม่ได้ออกแนวสาบกายจัดจ้านขนาดนั้น เพราะว่ามีโทนปร่าเขียวซ่าเมนทอลของสเปียร์มินต์ที่ไปสายอะโรม่าปร่าติดหวานปลายรื่นรมย์ที่มาตัดทอน พร้อมกับมีโทนเปรี้ยวขมของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) ที่สร้างบรรยากาศเย็นๆ ให้เนื้อกลิ่น เลยทำให้เข้า Concept ลักษณะของการเป็น Cologne ตามที่แบรนด์นำเสนอ โดยอารมณ์กลิ่นจะได้ความรู้สึกเหมือนเราอยู่ในแถบๆ เอเชียกลางแนวๆ อินเดีย หรือศรีลังกาที่จะมีกลิ่นเครื่องเทศโดดเด่นออกมาเคล้าอากาศดีๆ แบบอยู่ท่ามกลางธรรมชาติประมาณนั้น

เพียงไม่นานตัวเอกของน้ำหอมอย่างกลิ่นชาจะเริ่มเปิดตัวออกมาแหวกทางกลิ่นในช่วงต้นมายืนเด่นเป็นสง่า และนำเข้าสู่ช่วงกลางที่จะได้ออร่ากลิ่นอายของชาซีลอนที่ชัดเจนมาก ซึ่งเนื้อกลิ่นถือว่ามาแบบชามินิมัลที่ตรงไปตรงมาก็จริง แต่จะมีเลเยอร์มิติกลิ่นที่น่าสนใจในความเป็นชา คือ จะได้โทนติด Citrus เจือเขียวนวลสดชื่นก่อนตามด้วยกลิ่นเข้มกึ่งชอคโกแลตโปร่งๆ มีความรื่นจมูก โดยมีกลิ่นออกทางเย็นๆ บรรยากาศสดชื่นของช่วงต้นที่เป็นลูกผสมของมินต์และ Bergamot คลออ้อยอิ่งอยู่ตลอด แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะนอกจากความเป็นชาจะเด่นแล้ว สิ่งที่ตีคู่ขึ้นคือโทนเครื่องเทศของยี่หร่ากับกระวานที่ยังให้อารมณ์ผิวกายติดกลิ่นเครื่องเทศสาบเร้าอ่อนๆ ที่ก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทำให้การรับกลิ่นจะตีคู่กันไปสลับบางวูบเราจะได้รับกลิ่นชาซีลอนเต็มๆ บางวูบจะมีกลิ่นเครื่องเทศเต็มๆ บางวูบจะได้ลูกผสมชากึ่งเครื่องเทศที่ติดกลิ่นเร้าแบบสาบผิวกาย เรียกว่าเป็นการเล่นโทนการรับกลิ่นได้น่าสนใจมาก และให้อารมณ์เหมือนอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบสไตล์เอเชียกลางแบบศรีลังกาที่จะมีกลิ่นเร้าใจของเครื่องเทศท่ามกลางความเป็นชาซีลอนเลย

การเปลี่ยนแปลงในการเข้าสู่ช่วงท้ายจะไม่ค่อยเปลี่ยนไปจากช่วงกลางเท่าไหร่ เพราะความเป็นกลิ่นอายแบบผิวกายติดเครื่องเทศเคล้ากลิ่นเหงื่อและกลิ่นชาซีลอนยังคงมีอยู่ไม่หนีไปไหน ทำหน้าที่ได้ดีเสมอต้นเสมอปลายที่ให้ทั้งอารมณ์ปลุกเร้าแบบผิวกายกับเหงื่อที่มีกลิ่นชาซีลอนมาตัดทอนให้มีความอะโรม่าเข้ามาร่วมด้วยอย่างมีชั้นเชิง แต่จะมีโทนกลิ่นไม้หอมติดแห้งๆ มีความเข้มกึ่งหนังเล็กๆ และมีความ Smoky หน่อยๆ เข้ามาร่วมด้วยแบบผู้สนับสนุนรองใจดีเท่านั้น ซึ่งจะทำให้กลิ่นมีมิติความอวลของไม้เนียนๆ แต่ก็ไม่ได้กลบตัวหลักที่กำลังปล่อยของแต่อย่างใด ปิดท้ายบนผิวกันไปเรื่อยๆ จนจางไปตามกาลเวลา

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย ได้หมดทุกเพศวัยมหาลัยขึ้นไปก็ใช้งานตัวนี้ได้ แต่กลิ่นไม่ได้ง่ายสำหรับคนไทยนัก เพราะว่าการมีกลิ่นออกแนวกลิ่นกายเคล้าเหงื่อปนเครื่องเทศยี่หร่าแบบคนแถวเอเชียกลางอาจจะไม่ได้คุ้นชินกันนักในการมองว่าเป็นกลิ่นแนว Aromatic เลยอาจจะต้องเลือกสถานการณ์ในการใช้งานนิดนึง ซึ่งถ้าลงสเปรย์พอเหมาะกลิ่นจะมีเสน่ห์เร้าใจปนความอะโรม่าได้ดีเลย เช่นนั้นเลยให้ตัดการใส่เพื่องานทางการจัดๆ ที่อาจจะ Sensitive กับคนที่ติดต่อด้วยหรือผู้หลักผู้ใหญ่จะดีที่สุด แต่การใส่แบบทั่วไป จัดได้สบายมาก เอาจริงๆ จะใส่กิจกรรมกลางแจ้งหรือออกกำลังกายก็ได้อยู่ ถ้าจะนำเสนอความเร้าใจ ส่วนยามค่ำคืนอันนี้ใส่ได้แบบชิลล์ๆ แล้วกัน เพราะกลิ่นชามันอะโรม่าได้ดีอยู่แม้จะมีกลิ่นสายเร้าใจแซมบ้างก็ตาม

ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 6 ชม. เป็นสำคัญและไปต่อได้อีกตามสภาพผิวและจำนวนสเปรย์ ซึ่งส่วนตัวนอกจาขั้นต่ำที่ 6 ชม. แล้ว ไปต่อถึง 8 ชม. ได้สบายมากกับการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น ที่อาจจะทำให้อึ้งๆ กับกลิ่นยี่หร้าท่ามกลางบรรยากาศสดชื่นเอาได้ก่อน แล้วจะลดลงมาที่กระจายปานกลางไปซักระยะ แล้วกลิ่นจะเริ่มจมเป็นติดผิวในช่วงท้าย แต่ถ้าฉีดเสื้อที่สวมด้วยกลิ่นจะกระจายบนเสื้อดีพอสมควรเลย ซึ่งอยู่ที่การบาลานซ์ของแต่ละคนว่าจะฉีดยังไง

สรุป - เป็นการเอาความเป็นกลิ่นชาซีลอนมาเจอกับกลิ่นอายสายปลุกเร้าติด Dirty หน่อยๆ ได้อย่างลงตัวและเข้ากันได้ดีมากเกินคาด อารมณ์กลิ่นเลยจะเหมือนกลิ่นกายเคล้าเหงื่อท่ามกลางกลิ่นอะโรม่าของชาแบบตีคู่กันไป ซึ่งใช่เลยเหมือนเราไปอยู่ในโซนที่ผลิตชาซีลอนที่มีกลิ่นเครื่องเทศจากผู้คนแถบนั้น เพียงแต่ไม่ได้หนักหน่วงเกินไปจนตึ้บ เพราะคุมความเป็นสไตล์ Cologne ได้ดีอยู่นั่นเอง 

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.pinterest.com/pin/419468152789772683/?nic_v2=1a5WjiiIg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น