Brooklyn Perfume Company - Green Iris
Brooklyn Perfume Company เป็นหนึ่งในแบรนด์ Niche Perfume ที่เรียกว่าเป็นสาย Indie ก็คงจะไม่ผิดนัก ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2015 ที่ผ่านมาจาก James Peterson ที่เป็น Food Writer ที่มีชื่อเสียงมาก กับแรงบันดาลใจในวัยเด็กที่มักแต่กลิ่น Guerlain - Vol de Nuit จากคุณแม่ ทำให้มีความชอบในกลิ่นเป็นทุนเดิม + กับการเป็นนักเคมีและอยู่ในแวดวงอาหารอยู่แล้วด้วย ทักษะทางด้านกลิ่นเลยมีพร้อมเต็มเปี่ยม จึงได้เปิดแบรนด์ขึ้นมาที่ Brooklyn ณ NY โดยเน้นที่ส่วนผสมที่มีคุณภาพสูงและมีความ Premium และสร้างสรรค์กลิ่นที่มีความหรูหราและเป็นธรรมชาติ (แม้ว่าขวดจะดูเรียบง่ายไปนิดนึงก็ตาม)
เช่นนั้นเมื่อได้มีโอกาสมาเพิ่มประสบการณ์ในการเรียนรู้กลิ่นกับแบรนด์นี้เป็นครั้งแรก การมองหากลิ่นที่น่าสนใจเลยมาลงตัวเอาที่กลิ่นอายของดอกไอริสที่แบรนด์นี้ได้ลงชื่อรุ่นเอาไว้ว่า Green Iris ซึ่งการนำเสนอทางกลิ่นจะออกมาในรูปแบบไหน อ่านต่อได้เลย
Green Iris เปิดตัวออกมาเป็นต้นกลิ่นได้มีความโดดเด่นพอสมควร โดยที่มีกลิ่นเมล็ดแครอทที่ให้โทนใกล้เคียงการเป็นดอกไอริสที่ให้ความเป็นแป้งอับติดจืดแต่เจือหวาน + กลิ่นหัวเหง้าออริสที่เป็นหัวเหง้าของต้นไอริสที่ให้ความทึบอับจืดออกแนวเหง้าใต้ดินกึ่งอารมณ์เนื้อ Butter ที่รองพื้นกลิ่นอยู่แบบจับต้องได้ชัดเจนแต่จะมีเลเยอร์บนสุดที่ให้ความฟุ้งออกมาอย่างโทนพริกไทยที่มีความปร่าเผ็ดนวลปนฝาดหน่อยๆ อารมณ์กึ่งพริกไทยกับพริกไทยสีชมพู หรือน่าจะมีทั้งคู่ เคล้ากับกลิ่นออกทางดอกไม้ติดเขียวออกทางกึ่งแห้งกึ่งชื้นมีความติดเอียนเล็กๆ แปร่งๆ และบางวูบจะมีกลิ่น Musk ติดสาบ Animalic เข้ามาผสมผสานด้วย ทำให้กลิ่นในช่วงต้นอาจจะทำให้งงๆ หน่อยเพราะจะได้ทั้งความเป็นโทนติดอับจืดชื้นๆ ติดเผ็ดนวลปร่าปนเขียวหอมติดเอียนชื้นงงๆ กันนิดนึง แต่น้ำหอมแนวนี้ตัดสินกันที่ช่วงต้นไม่ได้ เพราะ
ตั้งแต่ช่วงกลางเป็นต้นไป ความดีงามของเนื้อกลิ่นสายโทนแป้งจะเริ่มปล่อยของออกมาชัดเจนโดยที่จะมีผู้เล่นหลักในการสร้างโทนแป้ง 2 โทนเป็นตัวกระจายความดีงามและผสมผสานในการสร้างกลิ่นสลับเลเยอร์ในการจัดต้องได้อย่างสวยงามมากนั่นคือ พื้นกลิ่นจะมีความทึบของกลิ่นโทนอับติดจืดกึ่ง Butter แนวหัวเหง้าออริสเจือกับกลิ่นเมล็ดแครอท แล้วจะเลเยอร์ชั้นถัดมาจะเป็นกลิ่นแป้งหอมโปร่งเขียวอมหวานของดอกไวโอเล็ตที่สร้างอะโรม่าที่รื่นรมย์ แล้วปลายกลิ่นจะมีโทนแป้งเบาบางติดอับอ่อนๆ ของไอริส ที่จะเป็นกลิ่นเมนหลักและให้ความมินิมัลน้อยแต่มากและมีความเป็นธรรมชาติสูงมาก แต่เนื้อกลิ่นไม่ได้โต้งๆ เล่นแต่ความเป็นโทนแป้ง แต่จะมีลูกเล่นจากช่วงต้นเป็นตัวซ้อนให้รับรู้ได้ว่ายังมีความปร่าเผ็ดนวลอ่อนๆ เคล้ากลิ่นดอกไม้ติดเขียวที่ความเอียนหายไป เหลือแต่ความเนียนบางๆ พลิ้วๆ ที่แทรกอยู่ในเนื้อกลิ่นเมนหลักเนียนๆ ประปรายไปซักระยะ แล้วเมื่อจางไปในที่สุด กลิ่นที่ขึ้นมาแทนที่คือกลิ่นโทนออกทางคล้ายหญ้าแห้ง (Hay) ที่ค่อยๆ เปิดตัวออกมา และนำเข้าสู่ช่วงท้ายของน้ำหอมที่เนื้อกลิ่นโทนแป้ง 2 มิติจากช่วงกลางจะยังตามมาโดดเด่นอยู่ในช่วงนี้ เพียงแต่เนื้อกลิ่นจะมีความแห้งมากขึ้น ทำให้จะได้อารมณ์กึ่งหญ้าแห้งกึ่งไอริสเจือออริสหวานปลายไวโอเล็ตแห้งคลอไปตลอด ซึ่งเมื่อดมใกล้ๆ ผิวจะได้กลิ่นโทนติดเค็มผิวกายอ่อนๆ เคล้าความนุ่มบางๆ มีเสน่ห์ที่เนียนๆ ตรึงเนื้อกลิ่นเอาไว้อยู่ ในลักษณะเป็นพื้นกลิ่นสร้างมิติที่ไม่ได้ทื่อๆ แค่กลิ่นโทนหญ้าแห้งกับไอริสติดหวานปลายแห้งเพียงอย่างเดียว ซึ่งแน่นอนว่าเนื้อกลิ่นยังความเป็นธรรมชาติและมีความเป็นโทนมินิมัลน้อยแต่มากที่ให้ความเรียบหรูและมีระดับไปตลอด ซึ่งถือเป็นการเดินทางของกลิ่นในช่วงท้ายที่ลงตัว เรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน ใช้ได้ทุกเพศ ยิ่งถ้าพื้นฐานคนใช้ชอบกลิ่นไอริสและออริสมาก่อน บอกเลยกลิ่นนี้สามารถทำให้ฟินเอาได้ทันที ซึ่งเข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ยกเว้นใส่เพื่อออกกำลังกายเพราะกลิ่นติดทึบอาจจะไม่ทำให้กระปรี้กระเปร่านัก ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นเน้นสร้างอะโรม่ามากกว่า จึงเน้นใส่สบายๆ ผ่อนคลายแทนจะดีกว่าใส่ไปท่องราตรีให้ชาวบ้านที่จัดหนักจัดเต็มกลิ่นหนักหน่วงทั้งหลายกลบเอาเสียเปล่าๆ
ความทน - เกินคาด เพราะตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะเกิน 6 ชม. เพราะเนื้อกลิ่นมีความเป็นธรรมชาติสูงเชียว แต่เอาเข้าจริง 12 ชม. กลิ่นยังทำหน้าที่อยู่ ถือว่าดีงาม
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาที่ออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไปจนถึงช่วงท้ายเลย พอพ้นไปซัก 6 - 8 ชม. กลิ่นจะเป็น Skin Scent กันยาวๆ ไป
สรุป - เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่คุมโทนการเป็น Niche Perfume อย่างแท้ทรู เพราะกลิ่นเปิดอาจจะงงๆ แต่เมื่อเซทตัวเข้าที่คือความดีงามที่สร้างความประทับใจได้ไม่ยาก และที่สำคัญเป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ขับเสน่ห์ของการเป็นโทนไอริสเจือไวโอเล็ตที่ให้ความเป็นธรรมชาติและกลิ่นเรียบหรูได้ลงตัวจริงๆ อันนี้ยอม
หมายเหตุ:
1.
บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล
ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”
Photo
Credit - เข็มขัดสั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น