วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Review: Pierre Guillaume - PG 27 Limanakia


 Pierre Guillaume - PG 27 Limanakia

ถ้าหาดทับทิมของเกาะเสม็ดได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความเฉพาะกลุ่มพอสมควรของไทย ต่างประเทศเขาก็มีเหมือนกันและแต่ละที่ก็แตกต่างกันออกไปเสียด้วย ซึ่งอาจจะเป็นชายหาดปกติทั่วไป หรือชายหาดที่มีร้านรวงบาร์เฉพาะ แต่มีอยู่ที่หนึ่งในประเทศกรีซ ที่เรียกว่าเป็นสถานที่ตัว Top ของการท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมทั้งทั่วไปและเฉพาะกลุ่มกับรูปแบบชายหาดที่แตกต่าง เพราะไม่ได้เป็นหาดทรายแบบทั่วไป แต่เป็นชายหาดหินที่ไล่ระดับลงไปในทะเลเมดิเตอร์เรนียนที่สวยงามมากและนั่นก็คือ Limanakia

(คำเตือน - ถ้าเอาคำว่า Limanakia ไป Search จะเจอหนังสั้นที่สื่อสารถึงสถานที่แห่งนี้ แล้วอย่าเข้าไปดูตัวอย่างเลย เพราะจะมีอุทานว่า “อกอีแป้นจะแตก เพราะ 18+” โด่เด่ท่ามกลางหาดหินไล่ระดับสุดๆ แต่มีอะไรมากกว่านั้นไหม ไม่รู้ ดูตัวอย่างไม่จบ เพราะปิดไปก่อนอยากรู้ไปดูกันเอาเองเนาะ)

และสถานที่แห่งนี้ก็ได้มาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์กลิ่นของ Perfumer สุดหล่อ (ที่มีลูก มีเมียแล้ว) อย่าง Pierre Guillaume ที่ได้ถอดเอาความเป็นกลิ่นอายของ Limanakia ลงสู่ขวดในนามของการเป็นหนึ่งใน Collection - Parfumeire Generale หรือเรียกสั้นๆ ว่า PG พร้อมตราประทับหมายเลขว่า 27 เข้าไปด้วย เช่นนั้นมาว่ากันที่เรื่องกลิ่นเลยดีกว่าว่าจะออกมาเป็นอย่างไร

เปิดตัวมาก็สามารถสร้างความไม่คุ้นชินกับกลิ่นแบบนี้ได้ เพราะจะมีกลิ่นหินร้อนวูบออกมาพร้อมกับกลิ่นไอทะเลที่เป็นไอเกลือแบบไม่ได้คาวเค็ม แต่ให้อารมณ์แบบรับไอทะเลบนผาหินแบบอากาศเรื่อยๆ เอื่อยๆ ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีความคมแปร่งในโทนเขียวขมพุ่งเจือให้พอรับรู้ได้จากโกฐจุฬาลัมพาหรือ Artemisia คลออยู่ตลอด ทำให้มีมิติกลิ่นมีความเป็นโทนออกทางสมุนไพรเขียวขมเข้ามาร่วมด้วย บางวูบจะรู้สึกเหมือนกลิ่นเหล้า Absinthe ที่มีสมุนไพรชนิดนี้เป็นส่วนผสม ซึ่งเป็นอารมณ์แบบเดียวกับจิบเหล้าบนหาดหินสร้างความกรึ่มๆ อย่างบอกไม่ถูก

แต่แล้วไม่นานกลิ่นออกทางดอกไม้ขาวใสๆ ให้อารมณ์กึ่งมะลิหวานใสระเรื่อเค้ากลิ่นอายติดเขียวอ่อนๆ แนวดอกไม้ขาวสดชื่นก็เริ่มเข้ามาร่วมด้วย ทำให้จะได้กลิ่นอายดอกไม้ใสๆ หวานโปร่งหอมระเรื่อกันอยู่ซักครู่ที่เป็นรอยต่อของช่วงต้นกับช่วงกลาง ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้นเพราะเนื้อกลิ่นจะผสมผสานกันโดยคงความเด่นของทุกโทนในช่วงต้นเหมือนเดิมทั้งความเป็นกลิ่นไอเค็มทะเลที่ไม่คาว กลิ่นเขียวขมแปร่งคมๆ และกลิ่นหินต้องแดด แต่เพิ่มเติมที่โทนดอกไม้ขาวที่มีเลเยอร์กลิ่นที่มีทั้งความหวานระเรื่ออ่อนๆ ความนวลสะอาด และความครีมมี่ติดตุ่ยๆ อารมณ์โลชั่นดอกไม้ขาวที่ไม่ได้หนักหน่วงมาก (หรือถ้าหนักหน่วงก็เจอกลิ่นช่วงต้นมาตัดทอนไปเยอะ เลยมาเจอกันคนละครึ่งทาง) และมีตัวแปรสำคัญเลยอย่างกลิ่นโทนเหงื่อแบบสาบปลุกเร้าที่มาจากยี่หร่า ที่ทำให้ช่วงนี้อารมณ์กลิ่นจะเป็นดอกไม้ขาว + สาบปลุกเร้า Animalic + กลิ่นหินและไอทะเล ซึ่งปลายกลิ่นจะมีความหวานแห้งๆ หน่อยๆ เข้ามาสร้างมิติกลิ่นที่ดึงดูดและเชิญชวยเย้าระเรื่อกึ่งอีโรติคร่วมด้วย ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าช่วงนี้กลิ่นค่อนข้างมีพลังและตรงไปตรงมาเรื่องพลังทางเพศพอสมควร รวมถึงเป็น Love or Hate ได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะทุกโทนปล่อยของและผสมผสานกันแบบเต็มที่จริงๆ

จนเมื่อกลิ่นดำเนินไปพอสมควรแก่เวลา ก็เป็นการเข้าช่วงท้ายของน้ำหอมที่กลิ่นพิมเสนจะแอบติดกลิ่นโทนเหงื่อจากยี่หร่าในช่วงกลางสร้างความเย้าดาร์กระเรื่อกำลังดีเคล้ากับกลิ่นอวลลึกติดหนังกึ่งแอมเบอร์ซึ่งไปลักษณะกลิ่นของยางไม่ Labdanum โดยมีโทนไม้หอมประปรายให้จับต้องได้แบบติดโปร่ง กลิ่นจะลดความเต็มที่ในช่วงกลางลงมาพอสมควรแต่ยังมีกลิ่นดอกไม้ติดครีมอ่อนๆ ที่ติดหวานเย้าเล็กๆ ประปราย รวมถึงกลิ่นไอหินติดเค็มก็ยังมีให้สัมผัสได้อยู่ตลอด ปิดท้ายการสื่อสารกลิ่นของความเป็น Limanakia ที่มีความเย้าเซ็กซี่แอบอีโรติคเนียนๆ แบบอารมณ์อยู่ริมหาดหินต้องแดดริมทะเลที่วิวสวยงามแล้วปล่อยพลังทางเพศออกมาให้รู้กันไปเลยว่ามาเพื่ออะไร 

เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน อาจจะไพล่ไปทางผู้หญิงมากกว่านิดหน่อยในแง่ของกลิ่นดอกไม้ขาว แต่ก็ไม่ได้หนักหน่วงมากนัก ทำให้ผู้ชายใช้งานได้สบายมาก ซึ่งกลิ่นนี้อาจจะต้องเรียนรู้กันนิดหน่อย เพราะเป็นการสื่อสารถึงสภาพแวดล้อมและกิจกรรม ณ สถานที่นั้นๆ การใส่เลยไม่เข้ากับยามทางการเลย เน้นใส่แบบชิลล์ๆ ทั่วไป หรือออกกลางแจ้งแดดแบบกำลังดีมากกว่าจะร้อนวายป่วงนั้นพอได้ ใส่ไปทะเลก็ดีเลยปล่อยพลังดี ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่ทั่วไปจะเข้าทางมากกว่า แต่ถ้าใส่ไปท่องราตรีก็ทำได้อยู่ แต่เพิ่มความมั่นเข้าไปหน่อยแล้วกันแล้วกลิ่นนี้จะสื่อสารออกมาได้ดีถึงสิ่งที่คนใส่อยากนำเสนอ

ความทน - จัดจ้านเชียว เพราะ 8 ชม. เป็นเรื่องปกติมากๆ ซึ่งกลิ่นลากยาวไปถึง 15 ชม. ได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าจำนวนสเปรย์ถึงและสภาพผิวเอื้อมากพอ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนที่จะทวีพลังมากระจายดีมากในช่วงกลางกันพอสมควร แล้วจะค่อยๆ ดรอปลงไปที่ปานกลางก่อนเป็นออร่ารอบๆ ตัวเมื่อพ้นไปซัก 6 ชม. แล้ว แล้วคงตัวไปเรื่อยๆ จนเป็น Skin Scent เมื่อผ่านไป 12 ชม.

สรุป - กลิ่นสร้างภาพในหัวได้ดีเลยทีเดียวถึงกลิ่นไอทะเลและกลิ่นไอหินต้องแดด ที่ล้อมกลิ่นอายโทนเซ็กซี่และปลุกเร้าแบบที่ปล่อยพลังแกมอีโรติคเนียนๆ ในความพร้อมที่นำเสนอตัวคนใช้งาน ซึ่งถ้าจะอินกับกลิ่นนี้มากขึ้น อย่างน้อยผ่านกลิ่นอายดอกไม้ขาวและกลิ่นทะเลมาบ้างจะทำความเข้าใจกับเนื้อกลิ่นได้ไม่ยาก

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://perfumelounge.eu/collections/pierre-guillaume-paris/products/limanakia

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น