วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Review: Bottega Veneta Eau Legere

Bottega Veneta Eau Legere

จากความสำเร็จของ Bottega Veneta for Women ที่ได้รับคำชมอย่างมากในการสร้างกลิ่นอายสายหนังที่มีเสน่ห์และมีออร่าแตะได้ทั้งโทน Classic หรูหราและโทน Modern ที่ขับ Sex Appeal ออกมาแบบชัดเจนมาก ก็ได้เวลาของการต่อยอดในการสร้างสรรค์ตัวต่อไปของแบรนด์ที่เกิดเป็น Flanker ออกมากับการเปิดตัวในปี 2013 กับรุ่น Bottega Veneta Eau Legere ที่ได้มีการเกริ่นนำไว้ว่า

เป็นการสร้างสรรค์กลิ่นอายใหม่ๆ ออกมา โดยยืนพื้นที่การเอาความเย้ายวนมีเสน่ห์ของรุ่นต้นตระกูลมาใส่ความสว่างในเนื้อกลิ่นและเพิ่มความสดชื่นแบบโทนน้ำเข้าไปด้วย” มาถึงแค่นี้ก็บอกได้เลยว่านี่คือการต่อยอดมาทางสายสดชื่นมากขึ้นกับการเป็นหนึ่งในตระกูล Bottega Veneta for Women เช่นนั้นเลิกเกริ่นมาเล่ากลิ่นกันดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไร

แรกฉีดจะสัมผัสได้ชัดเจนมากถึงกลิ่นแนว Citrus ที่ติด Spicy มีความเปรี้ยวขมเคล้ากับกลิ่นแนวพริกไทยปร่านวลๆ กึ่งฝาดเล็กๆ ที่แอบมีวูบดอกไม้หน่อยๆ แต่เพียงชั่วขณะจะจับต้องได้ถึงกลิ่นอายเขียวสดชื่นกึ่งแตงกวาบางๆ ที่เป็นลักษณะของใบไวโอเล็ตหน่อยๆ ที่เป็นฉากหลังเคล้ากับกลิ่นหนังบางๆ ซึ่งทำให้ช่วงเปิดแม้จะมีความปร่า Spicy ที่มีความเป็นหนังเจืออยู่แบบลายเซ็นตามต้นตระกูล แต่กลิ่นมีความสดชื่นเนียนๆ แบบโทนชื้นๆ ติดเขียวเคล้าความเป็นหนังอ่อนๆ แอบดาร์กเนียนๆ และมีความปร่าเจือความสดชื่นเย้าๆ โดยช่วงเปิดนี้ต้องบอกเลยว่ากลิ่นมีระดับมาก มีความ Feninine ที่กรุยกรายเย้ายวนกำลังดี และมีระดับหรูหราให้จับต้องได้ตลอดแนวเดียวกับรุ่นต้นตระกูลเพียงแต่กลิ่นสว่างกว่า

และเมื่อการเปลี่ยนแปลงเริ่มเข้ามาทีละหน่อย เพราะกลิ่นดอกไม้ขาวแนวมะลิกึ่งเขียวเจือตุ่ยเห็ดอ่อนๆ ของดอกพุด (Gardenia) เริ่มค่อยๆ เปิดตัวออกมาแบบที่ไม่ได้มาสายครีมมี่จัดจ้าน และมีความครีมมี่แบบกำลังดีที่ออกแนวสร้างมิติเสียมากกว่า แต่จะเจอเต็มๆ ที่กลิ่นหนังค่อนไปทางหนังกลับหน่อยๆ แต่มีความเป็นโทนติดเขียวเข้มน่าค้นหาสร้างมิติออกทางโทนดาร์กของ Oak Moss และมีกลิ่นติดอบอุ่นลึกๆ แบบกลิ่นหนังกึ่งแอมเบอร์ที่ไม่ได้อบอวลมากเกินไป แต่ให้ความอบอุ่นเจือหอมเย้ายวนดึงดูดของยางไม้ประเภท Labdanum ที่เริ่มเข้ามามีอิทธิพล แกมกลิ่นพิมเสนที่ให้ความปร่าระเรื่อกำลังดีในช่วงนี้ ซึ่งถ้าพูดในแง่ของภาษาน้ำหอมถือเป็นช่วงที่บอกกันได้อย่างชัดเจนมากว่าเป็นโทน Chypre Floral ที่ชัดเจนมาก เพราะพื้นฐานของ Chypre จะมี Bergamot, Labdanum, Oak Moss และพิมเสน ที่เป็นกลิ่นอายที่สร้างความหรูหรามีระดับติดกรุยกรายหน่อยๆ โดยมีฝั่งดอกไม้ขาวที่ให้ความครีมมี่แบบกึ่งกลางกึ่งเบาละเลียดกลิ่นคลอไปเรื่อยๆ เจือความเป็นโทนแป้งหน่อยๆ เสียด้วย เลยทำให้อารมณ์กลิ่นมีความหรูหราแกมเซ็กซี่เย้ายวนไล่เลเยอร์กลิ่นจากปร่าหอมพิมเสน แป้งกึ่งหนังที่มีความปร่าอวลเย้าเร้าใจปนโทนสว่างขาวแบบเนียนๆ ของดอกไม้ ตามด้วยและกลิ่นดาร์กน่าค้นหาของ ของ Oak Moss โดยที่ได้อารมณ์น่าค้นหาแบบติดดาร์กในเนื้อกลิ่นก็ได้ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ปล่อยของมากที่สุดเลยเพราะเสน่ห์มาเต็มจริงๆ

จนเริ่มสัมผัสได้ว่า Musk เริ่มเข้ามาเกลากลิ่นให้มีความนวลลง ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงท้ายตามลำดับ ซึ่งจะได้อารมณ์กลิ่นหนังเจือ Musky ที่มีความครีมนวลเจือแป้งหอมเนียนๆ แต่จะมีความปร่าติดปลายกลิ่นของพิมเสนที่เย้าจมูกคลออยู่ อารมณ์จะมีมิติมากในการสร้างความเซ็กซี่เย้ายวนเพราะมีพื้นกลิ่นเป็น Oak Moss ที่ให้อารมณ์ติดกรุยกรายดาร์กเจือกลิ่นหนังติดอบอุ่นหน่อยๆ สร้างความ Dirty และ Sex Appeal เนียนๆ คลอกลิ่นออกทางโทนแป้งดอกไม้ขาวเย้าติดปร่าระเรื่อที่ให้ความดึงดูดแบบไม่ได้จงใจ อารมณ์กลิ่นจะแบบว่าให้ความสว่างนวลยวนใจดึงเข้ามาก่อน เมื่อเข้ามาใกล้จะได้กลิ่นเย้าเร้าใจที่ค่อยๆ ซึมลึก ถือเป็นการปิดท้ายกลิ่นได้อย่างลงตัวและมีเสน่ห์แบบหยินหยางในความเย้ายวนได้ดีมากเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ - ผู้หญิงทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้งานได้ ซึ่งถ้าผ่านกลิ่นอายแบบหนังมาบ้างบอกเลยว่ากลิ่นนี้สร้างออร่าเย้ายวนแบบที่มีความร่วมสมัยสูงจริงๆ ซึ่งสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะทางการเพื่อสร้างความหรูหรา ทั่วๆ ไปแบบมีจริตเย้ายวนแบบไม่ไก่กาก็ทำได้ แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลยไม่เข้าทาง ส่วนยามค่ำคืนใส่ออกงาน ออกเดท หรือท่องราตรีที่อัดสเปรย์เพิ่มหน่อย จะสร้างออร่าหรูหรามีระดับได้ดีโดยที่มีความเซ็กซี่เนียนๆ พ่วงมาด้วยได้ไม่ยาก

ความทน - พื้นฐานยังไงก็ 8 ชม. และไปต่อได้อีก เพราะส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. ก็เจอมาแล้วกับการใช้งานที่ 5 สเปรย์  ถือว่ากลิ่นทนจัดดีจริงๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นและมีความเสถียรในการกระจายแบบนี้ยาวพอสมควร จนเมื่อผ่านซัก 4 ชม. ถึงลดลงมาปานกลางก่อนที่จะผ่อนตัวลงมาเรื่อยๆ จนเป็นออรน่ารอบๆ ตัวหลังจากผ่านไป 8 ชม.

สรุป - เอาความเป็นต้นตระกูลมาต่อยอดได้อย่างลงัวและงดงามมากโดยยังคุมโทน Sexy เย้ายวนแบบมีคลาสมีระดับได้อยู่ เพียงแต่จะไม่ได้มีจริตและมีความเชิ่ดเท่า แต่จะหันมาออกแนวเย้ายวนอวลปนนวลสว่างที่มีจริตกำลังดีมากกว่า ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าแบรนด์นี้สร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอมได้ไม่ธรรมดาจริงๆ

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.parfumo.net/Perfumes/Bottega_Veneta/Bottega_Veneta_Eau_Legere


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น