วันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2563

Review: Le Labo - Bergamote 22

Le Labo - Bergamote 22

ผ่านกลิ่นอายสายมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) มาก็หลากหลายแบรนด์มากมาย ทั้งเจอแบบกลิ่นอายสร้างบรรยากาศที่สดชื่นปร่าเย็น กลิ่นอายสดใสเปรี้ยวเจือขมราวกับคั้นน้ำออกมา หรือกลิ่นอายขมเจือเปรี้ยวสะอาดเรียบหรู ซึ่งในโซนนี้มีอยู่หนึ่งรุ่นของ Le Labo ที่ขึ้นชื่อและมักจะเป็นลำดับต้นๆ ที่คนมักบอกต่อให้คนชอบกลิ่น Bergamot ควรจะต้องลอง เช่นนั้นได้เวลามาเจอกันซะทีกับรุ่น Bergamote 22

และเมื่อใช้งานจนตกผลึกได้ที่ ก็ถ่ายทอดต่อออกมาได้แบบนี้เลย

เปิดตัวกันด้วยความเป็น Bergamot ที่ให้ความเป็นธรรมชาติกับกลิ่นอายเปรี้ยวเจือขมปร่าติด Spicy ในแบบที่เป็นน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกหน่อยๆ แต่ชั่วขณะต่อมาจะจับได้ถึงกลิ่นอายติดหวานปลายกลิ่นคล้ายแบบเลมอน พร้อมกับกลิ่นเปรี้ยวแปร่งสดใสสว่างของเกรปฟรุตที่เข้ามารับช่วงต่อ และจะมีมิติที่ให้กลิ่นติดเขียวเปรี้ยวเคล้าความนวลรองพื้นกลิ่นอยู่จากโทนคล้ายๆ ดอกส้มที่สกัดด้วยตัวทำละลาย (Orange Blossom) ซึ่งทำให้ช่วงเปิดการจับมิติกลิ่นภาพรวมแม้จะมีความสดชื่นเปรี้ยวเจือขมแบบ Bergamot ตามแบบที่ควรจะเป็น แต่ก็มีกิมมิคที่ทำให้กลิ่นมีอัตลักษณ์ออกมาอีกมุมหนึ่งคือการที่เป็นกลิ่นสดชื่นให้จับต้องได้แล้วตามด้วยความนวลสะอาดแบบเรียบหรูนี่แหละ ที่ทำให้กลิ่นมีลูกเล่นในความเรียบง่ายที่น่าสนใจมาก

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจะเริ่มชัดเจนอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะสาย Citrus สนับสนุนทั้งหลายจะลดทอนลงมากลายเป็นตัวเสริมให้มีความสดชื่นติดสว่างสร้างบรรยากาศแทน แต่ Bergamot ยังอยู่แต่กลายเป็นตัวสนับสนุนชั้นดี ให้กลิ่นที่กลายเป็นตัวเด่นขึ้นมาอย่างดอกส้มและกิ่งก้านส้มกลายเป็นตัวเดินกลิ่นที่สร้างความสะอาดนวลมีความหวานเจือเปรี้ยวหอมติดเขียวปร่าซ่าหน่อยๆ ซึ่งกลิ่นจะมีโทนออกทางกึ่งเครื่องเทศกึ่งไม้หอมที่สร้างความกลมกล่อมในเนื้อกลิ่นเสริมเข้ามาอย่างเม็ดจันทน์หอมที่ทำให้มีมิติของโทนปร่าเครื่องเทศแบบนุ่มและปูทางไปสู่โทนไม้หอมที่เริ่มแทรกตัวเข้ามาเรื่อยๆ เสียด้วย จนเมื่อโทนกลิ่นนวลหอมดอกส้มปนสดชื่นของ Bergamot เริ่มจางลงไปกลายเป็นปลายกลิ่น ความสดชื่นประปรายในเนื้อกลิ่นก็หายไปแล้ว กลิ่นไม้หอมเจือความนวลสะอาดของ Musk จะกลายเป็นผู้เล่นหลักในช่วงท้าย ซึ่งกลิ่นที่เด่นออกมาเลยคือ หญ้าแฝกที่ให้ความเป็นไม้แห้งๆ สะอาดๆ ที่คลอผิวไปกับโทนนุ่มของ Musk ที่มีมิติกลิ่นอบอุ่นอ่อนๆ แนวๆ วานิลลาแบบไลท์เวอร์ชั่นบางๆ เนียนๆ อยู่ด้วย เลยทำให้ช่วงนี้จะเป็นโทนไม้หอมติดนวลสะอาดและมีความสดชื่นติดปลายกลิ่น และคุมโทนสว่างในเนื้อกลิ่นได้ดีอยู่ได้อารมณ์กลิ่นสไตล์มินิมัลชัดเจนจริงๆ

เหมาะสำหรับ - Unisex ขั้นสุด แบบที่ไม่ว่าเพศไหนก็ใช้งานได้สบายมาก ซึ่งได้หมดตั้งแต่วัย ม.ต้น ขึ้นไปก็ใช้งานได้แล้ว กลิ่นจะให้ความสดชื่นติดมินิมัลเรียบหรูที่มีลูกเล่นและมิติกลิ่นที่รื่นรมย์เป็นหลัก เลยสามารถใช้งานได้หมดทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป รวมถึงออกกิจกรรมและออกกำลังกาย ใส่ได้เลยยังไงก็รอด มีระดับ และเรียบหรูสูงมาก ส่วนยามค่ำคืนเน้นแบบใส่สบายๆ ทั่วไปจะดีกว่า เพราะกลิ่นไม่ได้เป็นสายเย้ายวนรัญจวนใจปล่อยพลังเรียกแขกเท่าไหร่นัก

ความทน - เฉลี่ยการใช้งานความทนจะอยู่ที่ราวๆ 6 ชม. เป็นหลัก แต่จะมีบวกลบได้ราวๆ 2 ชม. โโดยส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. พอดีๆ กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะผ่อนลงมาปานกลางซักครู่ ก่อนจะกลายเป็นสาย Safe Scent เรียบหรูแบบออร่ารอบๆ ตัว แล้วพอพ้น 6 ชม. ก็ติดผิวไปเรื่อยๆ จนจางไปในที่สุด

สรุป - เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ตรงตามเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าเป็นอีกหนึ่ง Bergamot ที่ดีมาก เพราะให้ลูกเล่นในความมินิมัลที่ทั้งเป็นสไตล์สดชื่นคล้ายโทน Cologne ไปสู่กลิ่นอายสดชื่นแบบนวลๆ ที่หอมรื่นรมย์ ซึ่งเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดาเลยล่ะ ถ้าจะมีติดก็แค่เรื่องเดียวคือ “ราคา” เนี่ยแหละ 

หมายเหตุ:

1. บทความนี้มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน

2. บทความนี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์  ยกเว้นแบรนด์ สุคนธกร และเจ้าของแบรนด์ในการสร้างสรรค์กลิ่นนี้ที่จะสามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับร้านน้ำหอม/ผู้จำหน่ายคนนั้นๆ”

Photo Credit - https://www.mrporter.com/en-kw/mens/product/le-labo/grooming/eau-de-parfum/bergamote-22-eau-de-parfum-100ml/990541377768460

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น