L’Artisan Parfumeur - 26 Tenebrae
ได้เวลาเข้าสู่ไลน์ใหม่ที่มาสายหรูหรามาเต็มของ L’Artisan Parfumeur อย่าง Collection - Natura Fabularis ที่เปิดตัวเมื่อปี 2016 กับขวดทรงใหม่แถมผึ้งเกาะให้ดูมีอะไรที่สวยงามน่าครอบครอง แต่ปัจจุบันไม่มีผึ้งประดับแล้ว และเปลี่ยนชื่อเป็น Collection - La Botanique X Deyroll แทน โดยจะมี Concept ที่น่าสนใจมาก คือ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของภาพวาดและจินตนาการที่ถ่ายทอดความเป็นธรรมชาติออกมาผ่านกลิ่นอายต่างๆ ทั้งหมด 6 รุ่น เช่นนั้นได้เวลาบอกเล่าว่าแต่ละกลิ่นจะมาในลักษณะไหน ซึ่งก็ขอเริ่มที่รุ่นนี้เลย 26 Tenebrae
เปิดต้นกลิ่นความรู้สึกแบบเย็นๆ ก็มาก่อนเลยในวูบแรก แล้วจะค่อยๆ มีกลิ่นอายของไม้หอมเคล้ากลิ่นโทน Incense แบบติดสว่างๆ ของ Frankincense ที่เป็นโทนยางไม้แนวไม้หอมสะอาดติดเขียวออกทางชะอุ่มหน่อยๆ และมีความเปรี้ยวสดชื่นให้รู้สึกได้ดันขึ้นมา โดยที่กลิ่นของโทนไม้หอมจะชัดเจนและมีความรู้สึกติดเปียกดินๆ จางๆ ให้จับได้ผสมผสานอยู่ในนั้นด้วย อารมณ์เลยได้ความรู้สึกอารมณ์แบบป่าเย็นๆ เด่นที่กลิ่นอายไม้หอมโดยที่ให้ความเขียวปนสะอาดกำลังดีท่ามกลางอากาศเย็นๆ ที่มีความสว่างประปรายในเนื้อกลิ่นไปเรื่อยๆ เสียมากกว่า จนเมื่อเข้าสู่ช่วงกลางกลิ่นจะไม่ได้เปลี่ยนไปจากช่วงต้นไปมากนัก แต่จะมีความแห้งในเนื้อกลิ่นและเริ่มเข้าสู่การเป็นโทนยางไม้มากขึ้นจาก Frankincense แน่นอนยังมีความสดชื่นอยู่และมีความเป็นโทนเครื่องเทศสดชื่นติดปร่าเจือในเนื่้อกลิ่นเสียด้วย กลิ่นจะเริ่มมีความรื่นรมย์สบายๆ แบบป่าที่มีความเขียวสลับกับกลิ่นเนื้อไม้ที่มีอากาศเย็นๆ แห้งๆ กำลังดีไปตลอดลากยาวไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงท้ายที่การเปลี่ยนแปลงเริ่มจะมีบ้าง ให้รู้สึกได้ถึงความเป็นไม้หอมแห้งๆ และมีกลิ่นอาย Smoky กำลังดีให้รู้สึกได้ซึ่งก็มาจากหญ้าแฝก เคล้ากับกลิ่นบรรยากาศแบบป่าแห้งๆ เย็นๆ ปนกลิ่นอายเขียวสบายๆ ปนกลิ่นไม้หอมบางๆ และมีกลิ่นของโทนยางไม้เจือไปตลอด กลิ่นจะคุมโทนกลางๆ เป็นอย่างดีในความกึ่งทึมกึ่งสว่างประปราย ให้นึกภาพป่าที่มีหมอกบางๆ และแสงส่องสว่างทะลุต้นไม้ลงมาแบบเป็นจุดๆ ประมาณนั้น ซึ่งถือว่าเป็นกลิ่นที่ได้บรรยากาศเหมือนเดินเล่นในป่าเย็นๆ จากสดชื่นสู่แห้งๆ ได้ลงตัวเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ - Unisex เลย เพราะกลิ่นมาสายบรรยากาศ จึงได้หมดทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้่นไปก็สามารถแล้ว กลิ่นเข้าถึงได้ง่าย แต่ถ้าผ่านกลิ่นอายไม้หอมและกลิ่นโทนยางไม้มาบ้างหรือเป็นคนที่ชอบโทนกลิ่นอายโทนป่าไม้จะเข้าถึงได้ง่ายมากเลย ซึ่งสามารถใส่ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป ใส่ออกกำลังกายยังได้สบายมากเลย ส่วนยามค่ำคืนเน้นใส่แบบทั่วๆ ไปน่าจะดีกว่า เพราะกลิ่นจะให้ความรู้สึกเย็นๆ สบายๆ ผ่อนคลายและรื่นรมย์ได้ดี ส่วนไปท่องราตรีน่ะเหรอ ตัดไปได้เลย โดนกลบมิดแน่นอน
ความทน - ลงตัวที่ราวๆ 8 ชม. อาจจะมีบวกลบไปบ้างราวๆ 2 ชม. ก็ถือว่ากำลังดีและลงตัวได้อยู่
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลาง แล้วลดหลั่นลงมาที่ออร่ารอบๆ ตัว พอพ้นซัก 6 ชม. ไปแล้วจึงเป็น Skin Scent
ทิ้งท้าย - กลิ่นไม่ได้หวือหวานักถ้ามองในแง่ที่ต้องการความแปลกใหม่ของกลิ่น แต่ถ้าให้ความรู้สึกแบบบรรยากาศอันนี้ชัดเจนและลงตัวจริงๆ เป็นอีกหนึ่งกลิ่นที่ใช้ง่ายมากเลย เพียงแต่ราคานี่สิ ตัวใครตัวเผือกนะจ้ะ
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit – Fragrantica --> https://fimgs.net/images/perfume/social.40727.jpg
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น