วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561

Review: Cafe de Parfum - Grim Fantasia

Cafe de Parfum - Grim Fantasia 

คงไม่มีใครที่ไม่เคยได้ยินนิทานเรื่อง หนูน้อยหมวกแดงที่มีต้นกำเนิดจากแถบยุโรป และมีการปรับเนื้อเรื่องไปตามแต่ละท้องถิ่น แต่ถ้าบอกว่าเวอร์ชั่นไหนแพร่หลายมากที่สุดคงหนีไม่พ้นเวอร์ชั่นของพี่น้องตระกูล Grim ซึ่งเมื่อกลิ่นอายของความเป็นนิทานกับกลิ่นอายน้ำหอมมาเจอกันด้วยการสร้างสรรค์ของ Cafe de Parfum แบรนด์ไทยที่สร้างสรรค์กลิ่นอายหอมๆ จากแรงบันดาลใจจากของหวานใน Cafe จะเป็นเช่นไร ก็ได้เวลาของหนูน้อยหมวกแดงที่จะเอาของหวานไปฝากคุณยายกันแล้วกับน้ำหอมกับน้ำหอมกลิ่นนี้เลย Grim Fantasia 

เค้กแบล็คฟอเรส (เค้กที่มีเอกลักษณ์ของด้วยความผสมผสานของดาร์กชอคโกแลต ครีม และเชอร์รี่ประดับบนสุดของเค้ก ที่รสชาติหวานปนขมหอมเร้าใจสายชอบของหวานแนวชอคโกแลต) เป็นหนึ่งในของหวานที่นำมา Mix & Match เป็นหนึ่งในของหวานที่หนูน้อยหมวกแดงนำไปฝากคุณยาย โดยเริ่มเปิดการเดินทางเข้าสู่กลิ่นอายแบบหวานหอมเชอร์รี่ในไซรัปหวาน บางวูบจะได้อารมณ์แบบเชอร์รี่เชื่อมบนไอศครีมที่ให้ความรู้สึกน่ารักดันก่อนเลย แต่นี่แค่วูบแรกที่กระจายออกมา เพราะวูบถัดมาสิ่งที่ทำให้รู้สึกได้เลย คือ กลิ่นไม่ได้ง่ายและ Nice อย่างที่คิดแล้ว เพราะจะมีกลิ่นติดอับๆ ดาร์กๆ ที่เสริมขึ้นมาอย่างรวดเร็วท่ามกลางความหวานหอมของเชอร์รี่ โดยจะจับโทนกลิ่นได้ว่ามีความเป็นอบเชยหวานปนอุ่นโปร่งบางๆ กลิ่นสมุนไพรปร่าติดเขียวออกทาง ชื้นๆ กลิ่นหนังและโทน Earthy ใต้ดินอับๆ ซึ่งกลิ่นจะหักมุมกันได้เลยทีเดียวแบบว่าที่เห็น Nice น่ารักแบบแว้บแรก จริงๆ แล้วมันดาร์ก ลึกลับ และรู้สึกแปลกไม่น่าวางใจได้กับโทนกลิ่นที่มีความอับปนชื้น ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้จะหลายเป็นกลิ่นที่สามารถชี้ทิศทางกันได้เลยว่าจะ รักหรือ ลากับกลิ่นนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกควบคู่ไปด้วยคือ ความน่าค้นหาว่ากลิ่นจะไปยังไงต่อนี่แหละ ที่น่าติดตามจริงๆ 

เมื่อกลิ่นโทนอับเริ่มลดทอนลงมาแต่ยังหลงเหลืออยู่ให้รู้สึกได้ว่ากลิ่นยังมีอะไรที่ไม่น่าไว้วางใจและสะดุดใจให้รู้สึกสนใจอยู่กับความดึงดูดแปลกๆ นั้น สิ่งที่เริ่มชัดเจนขึ้นมาให้จับต้องได้ คือ ความเป็นโทนออกทางครีมๆ มันๆ ของวิปครีมที่เจือความหวานของกลิ่นเครื่องเทศอย่างอบเชยและแน่นอนว่ายังมีความเป็นเชอร์รี่หวานให้รู้สึกได้อยู่ แต่กลิ่นไม่ได้ไปสายขนมจ๋าๆ แน่นอน เพราะมีความปร่าบางๆ ออกทางสมุนไพรให้พอรู้สึก มีกลิ่นไม้หอมแห้งๆ กับกลิ่นหนังเคล้ากลิ่นโกโก้ที่เริ่มจะเด่นขึ้นมาตามลำดับเป็นสายสนับสนุนเบื้องหลังในช่วงนี้ กลิ่นเริ่มจะมีการเปลี่ยนแปลงตามลำดับเพียงแต่ยังไม่ได้ชัดเจนนักว่าจะออกมาในรูปไหน รู้แต่ว่าเริ่มมีโทนลักษณะออกทาง Vintage อบอุ่นเบาๆ เสริมเข้ามา เพียงแต่ยังคุมโทนความลึกลับดาร์กๆ ท่ามกลางความหวานให้รู้สึกได้แบบไม่หนักหน่วง แต่

ก็กลายเป็นการหักมุมอีกครั้งแบบพลิกไปจากช่วงก่อนหน้าเลย เพราะกลิ่นในช่วงก่อนๆ จะหายไปเกือบเสียทั้งหมดแบบหลีกทางให้กับช่วงท้ายที่กลิ่นโกโก้เริ่มเทคโอเวอร์กลายเป็นกลิ่นที่เป็นหัวใจหลักเพื่อเข้าสู่ช่วงท้ายที่มีความเป็นโทนดาร์กปนอบอุ่นเจือวานิลลาอ่อนๆ และความเป็นครีมมันๆ ปนหวานเชอร์รี่จะเหลือเพียงเบาบางให้พอรู้สึกได้ เคล้าไปกับกลิ่นของ Oak Moss ที่เริ่มชัดเจนเคล้ากับกลิ่นหนังที่ให้ความดิบแบบกลางๆ ไม่ได้ถึงกับไปสาย Animalic จัดๆ มากนัก ซึ่งถือว่าเป็นการแบ่งภาคที่ลงตัวมากระหว่างความเป็นกลิ่นลักษณะเป็นขนมที่ไม่ได้ขนมจ๋าๆ ออกแนวเหมือนมีขนมในซีนทั้งหมดเพียงจุดหนึ่งที่มองเห็นได้ กับโทน Vintage ที่ให้ความมีระดับและดึงดูด โดยยังคงความดาร์กและลุ่มลึกเป็นออร่าแผ่ถึงความซ่อนคมในความละมุนปนดาร์กได้เป็นอย่างดีและคงตัวบนผิวแบบที่มีพลังไปตลอด 

ซึ่งภาพรวมเรียกว่าเป็นกลิ่นที่มาลักษณะ Plot Twist หักมุมเป็นระยะๆ และมีความเป็นศิลปะแบบ Niche Perfume ที่มีลูกเล่นเปิดตัวแบบอาจจะไม่น่าพึงใจนัก มีความแปลกและนี่มันคือน้ำหอมจริงๆ เหรอ ก่อนจะมาพลิกเกมกลายเป็นโทนที่มีพลังและมีออร่าแบบ Last Boss ที่ซับซ้อนและปรามาสไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นลักษณะของหนูน้อยหมวกแดง มันคือการพลิกความเป็นเนื้อเรื่องให้ Fantasy ในอีกรูปแบบให้จบลงที่

หนูน้อยหมวกแดงนั่งกินเค้กแบล็คฟอเรสที่ติดตัวมากับคุณยายหน้าบ้านแบบมีระดับ ทั้งคู่มีรอยยิ้มที่เยือกเย็น แต่ใต้ฝ่าเท้าของทั้งสองมีหมาป่าร้องอิ๋งๆ ถูกโซ่รัดคอกลายเป็นทาส นายพรานที่รีบมาเพื่อที่จะช่วยก็กลายเป็นเงิบไป เพราะว่าพึ่งเห็นว่าหมาป่าตัวนี้มาเล่นงานผิดคน 

ภาพที่เห็นเชื่อมโยงกับน้ำหอม - ผู้หญิงที่มีลุคน่ามองมีรอยยิ้มที่ดู Nice ในแรกพบ แต่พอหันไปดูอีกครั้งนางกับนิ่งมีออร่าที่มืดดาร์ก ดูซ่อนคมและซับซ้อนเกินหยั่งถึงง่ายๆ กับ เค้กแบล็คฟอเรสที่บอกเลเยอร์ชั้นเค้กที่แตกต่างชัดเจน

เหมาะสำหรับ - ได้ทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป และต้องผ่านน้ำหอม Niche กับ Vintage มาระยะหนึ่ง เพื่ออย่างน้อยเวลามาเจอตัวนี้ จะได้เรียนรู้ไปกับกลิ่นอย่างสนุกสนานได้เลย ซึ่งกลิ่นเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป (รอซัก 30 นาทีหลังฉีดแล้วค่อยออกจากบ้านจะดีงาม) แต่ให้ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายหริือกิจกรรมกลางแจ้งไปได้เลย ส่วนยามค่ำคืนจัดไป ถ้าต้องการนำเสนอความดาร์กและมีพลังแบบซ่อนคม ไม่เน้นยั่วแต่เน้นให้รู้สึกได้ว่าไม่ง่าย นี่แหละใช่เลย

ความทน - ยอมมมม กลิ่นทนมาก 12 ชม. กลิ่นยังคงให้ความอวลๆ รุมๆ มีออร่าออกมาอยู่ให้จับต้องได้ตลอด กับการใช้งานที่ 6 สเปรย์ (เอาจริงๆ ตัวนี้ 4 - 5 สเปรย์ ก็เอาอยู่แล้ว) 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมาปานกลาง แล้วปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัว 

ทิ้งท้าย - วันนึงหนูเดินเข้าป่า เจอหมาป่าตัวหนึ่ง ถามว่าหนูว่าจะไปไหน หนูจึงตอบ หายายบ้านไกล อย่าเปรี้ยวได้ไหมถ้าไม่อยากตาย 

หมายเหตุ: 

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกจากแบรนด์ Cafe de Parfumและสุคนธกรผู้ปรุง นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - Cafe de Parfum
--> https://www.cafedeparfumth.com/product/grim-fantasia/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น