วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2561

Review: Jo Malone - Myrrh & Tonka

Jo Malone - Myrrh & Tonka 

กลับมาสู่สาย Cologne Intense ขวดดำของ Jo Malone กันอีกครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในไลน์ที่มีครบทั้งเรื่องความทนและกลิ่นที่คุมสไตล์ความเป็นแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ และคราวนี้ก็ได้เวลาของการจับคู่สาย Intense อย่าง Myrrh ที่มาสายยางไม้เจือหวานและ Tonka Bean ที่มาสายครีมมี่ Oriental เช่นนั้นกลิ่นจะเป็นเช่นไรก็ว่ากันตามนี้เลย

Myrrh & Tonka เปิดตัวกับช่วง Top Notes กับการเป็นกลิ่นอายลาเวนเดอร์ที่มีโทนกลิ่นที่มีความนวลอะโรม่าเจือสมุนไพรจางๆ แต่จะมีโทนกลิ่นอายแบบเครื่องเทศโทนอบอุ่นปนหวานเข้ามาผสมผสานแนวๆ เดียวกับกลิ่นอบเชย แต่สิ่งดีคือ กลิ่นไม่ได้ไปทางสายนัวและแน่นจัดเกินไป เพราะความเป็นลายเซ็นของ Jo Malone ที่คุมโทนลักษณะกลิ่นแบบสไตล์ Cologne เอาไว้แม้ว่าจะเป็นโทนอบอุ่นก็ตามได้ดีอยู่ กลิ่นเลยจะได้ความนวลแบบอะโรม่าปนหวานกำลังดี โดยที่จะได้ความรู้สึกของความเป็นยางไม้ติดหวานของ Myrrh ที่ค่อยๆ แทรกขึ้นมาผสมผสานจนกลายเป็นกลิ่นหลักในช่วงกลางที่เจือกลิ่นถั่วบางๆ Smoky ให้พอรู้สึกได้ รวมถึงมีความหวานหอมปนกลิ่นไม้หอมที่มีโทนติดเครื่องเทศบางๆ ที่มีความดึงดูดน่าค้นหาเจืออยู่ ซึ่งกลิ่นในช่วงต้นของลาเวนเดอร์เจือเครื่องเทศโทนอุ่นที่ให้ความนวลจะยังให้จับต้องได้แบบผู้สนับสนุนรองใจดีในกลิ่นด้วยเช่นกัน โทนกลิ่นโดยรวมเลยได้ความเป็นยางไม้ที่อบอุ่นเคล้าความหวานนวลที่ดึงดูดแบบไม่จงใจได้อย่างลงตัว และไม่ดูเยอะหรือแหลมเกินไป 

เพียงไม่นานความเป็นสีน้ำตาลจะเริ่มมีความครีมมี่ติดแป้งเบาๆ เข้ามาเสริมมากขึ้นจากถั่วตองก้าที่ อารมณ์แบบสีโทนชาของกลิ่นอายยางไม้โดนสีครีมของกลิ่นโทน Oriental มาผสมทีละหน่อยจนเริ่มมีความพอดีพอเหมาะของการผสมผสาน ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงท้ายอย่างเป็นทางการที่บ่งบอกถึงการเป็น Myrrh & Tonka ได้ชัดเจน เพราะกลิ่นยังคงเป็นยางไม้เจือความหวานปน Smoky อ่อนๆ ดาร์กนัวแบบนุ่มๆ อยู่ในความเป็นโทนครีมมี่บางๆ คล้ายมีโทนแบบแป้งติดถั่วแนวอัลมอนด์เคล้าความเป็นวานิลลาหน่อยๆ แบบ Lite Version ที่ทำให้กลิ่นมีความอบอุ่นอวลผิวกายรองพื้นดันให้กลิ่นยางไม้ของ Myrrh ผสมกับโทนไม้หอมที่กลั้วอยู่ข้างในเเป็นลักษณะ On Top ที่ทำให้กลิ่นมีความน่าค้นหาเป็นโทนหลักโดยทีให้ความหรูหราปนเรียบหรูในความเป็นโทนอบอุ่นได้ลงตัว 

เหมาะสำหรับ - กลิ่นมีความเป็น Unisex ตามที่แบรนด์ลงไว้ชัดเจน ซึ่งเข้ากับวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้แล้ว เพียงแต่กลิ่นแม้จะหวานแต่ก็มีความขรึมน่าค้นหาไปตลอด จึงเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันไม่ว่าจะใส่ออกงาน หรือใส่ทั่วๆ ไปแบบอยู่ในห้องแอร์ มากกว่าจะออกกิจกรรมกลางแจ้งหรือว่าออกกำลังกาย เพราะกลิ่นมาสายอวล เกรงว่าจะอึดอัดเอาได้ ส่วนยามค่ำคืนต้องบอกเลยว่ากลิ่นนี้ของ Jo Malone เข้ากับยามกลางคืนมาก น่าค้นหาอย่างมีระดับ และไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียวในแง่ของความหวานเย้ายวน 

ความทน - เป็นอีกหนึ่งรุ่นของสาย Cologne Intense ที่ทนมาก โดยเฉลี่ยกลิ่นจะทนราวๆ 8 ชม. ซึ่งเกินค่าเฉลี่ยความทนของแบรนด์นี้มาก แต่ก็อิงที่จำนวนสเปรย์ด้วยเป็นสำคัญ ซึ่งสิ่งที่เจอจากการใช้งานจริงหลายครั้ง ต้องยอมใจเลยว่ากับ 6 สเปรย์ อยู่ได้ถึง 12 ชม. เกินคาดมากจริงๆ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น ก่อนจะลดลงมากระจายปานกลาง แล้วเป็นออร่ารอบๆ ตัวในช่วงท้าย พอพ้นซัก 6 ชม. ไปแล้วจะเป็น Skin Scent ในเวลาถัดมา 

ทิ้งท้าย - ภาพรวมของกลิ่นไล่เรียงกันมาแบบค่อยเป็นค่อยไปได้น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ Myrrh ที่จะเป็นโทนหลักของน้ำหอมรุ่นนี้และสนับสนุนหลักด้วยความเป็นโทนกลิ่นออกทางครีมมี่ติดแป้งของ Tonka Bean ซึ่งกลิ่นลักษณะนี้ถ้ามากไปจะดูแน่นนัวไปหมด แต่เพราะเนื้อกลิ่นยังมีลายเซ็นของ Jo Malone จึงเข้าถึงได้ไม่ยาก น่าค้นหา และมีระดับมากกว่าที่คิดเสียด้วยนั่นเอง 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit – Scentfile: https://scentfie.com/product/jml-myrrh-tonka/



1 ความคิดเห็น:

  1. หอมมาก เพิ่งซื้อกล่นนี้มา 50 มืล 1 ขวดวันนี้ ชอบมาก


    ตอบลบ