วันจันทร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2562

Review: Cafe de Parfum - Ashura

Cafe de Parfum - Ashura 

ว่ากันด้วยเรื่องของขนมที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอย่าง Noah’s Pudding หรือที่พี่น้องชาวมุสลิมจะรู้จักกันดีอย่าง ขนมอาซูรอที่มีที่มาจากพระธรรมปฐมกาลว่าด้วยเรื่องน้ำท่วมโลกและเรือโนอาห์ที่ทำให้ครอบครัวของโนอาห์รอดมาได้พร้อมกับสัตว์พันธุ์ต่างๆ ที่พระเจ้ากำหนดไว้ แล้วเรือโนอาห์ไปล่องได้มาถึงภูเขาอารารัตแล้วติดค้างอยู่ที่นั่นจนน้ำเริ่มแห้งลงพร้อมกับเสบียงอาหารที่มีไม่มา
ก เช่น ธัญพืช ผลไม้ทั้งสดและแห้ง ถั่ว เผือก และมันต่างๆ มากวนเข้าด้วยกันจนคล้ายขนมเปียกปูน ซึ่งเป็นอาหารแห่งการเฉลิมฉลองในการมีชีวิตอยู่ จนสืบเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ 

และเมื่อ Cafe de Parfum ได้นำเอาความเป็นขนมอาซูรอ มาเป็นหนึ่งในการสร้างสรรค์กลิ่นอายน้ำหอมหนึ่งใน Collection แรกของแบรนด์ ซึ่งล้อเข้าพิธีอาชูร่าหรือวันอาซูรอที่เป็นการเข้าสู่เดือนแรกของปฏิทินอาหรับนั้น กลิ่นอายจะมาในลักษณะไหนก็บอกเล่ากันออกมาได้ตามนี้เลย 

เปิดต้นกลิ่นด้วยความชัดเจนของแต่ละโทนกลิ่นที่จะพร้อมใจกันแสดงให้เห็นถึงความ Unique ที่แปลกและแตกต่างของกลิ่นกันก่อนเลย โดยจะจับต้องได้ชัดเจนถึงกลิ่นโทนติดเมทัลลิคกึ่งผลไม้วูบแรก มีความเขียวติดขมเจือ Milky อวลๆ หน่อยๆ ซึ่งน่าจะมาจากลูกมะเดื่อฝรั่ง (Fig) พร้อมกับกลิ่นแนวถั่วหรือแป้งถั่วที่มีความเขียวอวลแน่นลึกเสริมเข้ามา กับมีกลิ่นยาสูบให้ความเป็นโทน Aromatic แบบหวานอ่อนติดสมุนไพรแห้งๆ ซ้อนด้วยพริกไทยแบบคมๆ ชัดๆ ปร่าเผ็ดพุ่งมาเคล้าเผ็ดหอมลึกของกระวาน เพราะสิ่งที่ตามมาติดๆ เป็นสายรองพื้นคือโทนไม้หอมที่เด่นด้วยกลิ่นไม้สนไพน์ที่ปร่านวลเจือหวานสะอาดกับโปร่งขรึมของไม้ซีดาร์ เรียกว่าช่วงต้น จะได้อารมณ์และความรู้สึกเหมือนนักแสดงนำของกลิ่นแทบทุกโทนจะมาแนะนำตัวให้เราได้สัมผัสได้รู้จักอย่างใกล้ชิด โดยจะทำให้เราได้สัมผัสความแปลกใหม่ของมิติกลิ่นที่ไล่เรียงจากฟรุตตี้ติดเขียว ถั่วอวลเขียว อะโรม่าเจือหวานแห้งยาสูบ ความคมของโทน Fresh Spicy ที่ฟุ้งกระจาย และความขรึมปนสะอาดเจือหวานเนียนๆ ที่ต่อเนื่องและติดๆ กันได้เลยทีเดียว ซึ่งเพียงแค่นี้ก็ตอบได้ชัดเจนตั้งแต่จุดเริ่มต้นของกลิ่นได้เลยว่า กระทำความ Niche” กันอย่างชัดเจน และสิ่งที่ทำให้รู้สึกได้อย่างต่อเนื่องคือ การสื่อสารถึงขนมอาซูรอแบบทางโซนๆ แถวตุรกีที่เป็นการนำเอาเครื่องเทศ ถั่ว ผลไม้สดและแห้งต่างๆ มาผสมผสานแล้วกวนกับแป้งเข้าด้วยกัน อันนี้ตอบโจทย์ได้อย่างชัดเจน 

ซึ่งเมื่อแต่ละโทนได้แนะนำตัวเราเรียบร้อยแล้ว กลิ่นจะเริ่มเข้าสู่ช่วงที่ผสมผสานและลดหลั่นบทบาทหน้าที่ของตัวเองกันได้อย่างลงตัว โดยที่กลิ่นอายของโทนไม้หอมจะกลายเป็นตัวเด่น นำโดยกลิ่นไม้ที่โปร่งแต่มีความขรึมของซีดาร์ เคล้ากลิ่นสะอาดเจือปร่าหวานติดเขียวปลายของสนไพน์ที่มีกลิ่นอ้อยอิ่งน่าค้นหาติด Smoky แบบกำลังดี และรู้สึกว่าจะมีโทนติดแป้งอับหน่อยๆ คลอไปกับโทนถั่วที่ยังคงติดอวลเคล้าความเขียวติดขมเจือหวานปลายอ่อนๆ ของ Fig ที่ยังตามมาอยู่ ซึ่งจะมีตัวเสริมให้กลิ่นมีความลุ่มลึกหวานติดสมุนไพรแห้งของยาสูบเคล้าความปร่านวลไปตลอดอย่างโทน Fresh Spicy ติดโทนไม้หอมออกทางนุ่มของเม็ดจันทน์เทศและกระวานที่ให้ความเผ็ดดึงดูดเจือหวานลึก ซึ่งจะให้เลเยอร์การดมกลิ่นที่ผสมผสานกันจากจากไม้หอมเผ็ดนุ่มเจือเขียวปนถั่วอวลไล่ไปสู่ความหวานปลายกลิ่นให้ความรื่นรมย์ของยาสูบอย่างน่าสนใจมาก เพราะกลิ่นมีความแปลกแต่ดึงดูดในความขรึม อวล มีความ Cool และไม่เหมือนใคร รวมถึงกลิ่นสอดรับกันได้อย่างมีเสน่ห์ไปตลอดจนถึงช่วงท้าย ซึ่งโทน Smoky กับ Spicy เผ็ดต่างๆ จะลดทอนลงไปเหลือเบาบาง ให้ตัวเอก 3 โทนอย่างไม้หอมที่จะเด่นด้วยโทนไม้ซีดาร์ให้ความโปร่งขรึม และมีลักษณะออกทาง Earthy แห้งๆ ผสมผสานไปกับโทนถั่วออกทางอัลมอนด์ที่ออกขมปนความเขียวเบาๆ กำลังดีเป็นพื้นกลิ่นสนับสนุนความโปร่งเจือหวานของยาสูบไปเรื่อยๆ จนให้ความรู้สึกแบบกลิ่นไม้หอมติดหวานปลาย เจือถั่วติดขมอ่อนๆ ที่มีชั้นเชิงคลอกับผิว มีความสบายๆ ในเนื้อกลิ่นท่ามกลางความขรึมได้อย่างลงตัวและมีสไตล์มากจริงๆ 

ภาพที่เห็นเชื่อมโยงกับน้ำหอม - ผู้ชาย/ผู้หญิงที่มีความนิ่งขรึมเงียบๆ มีความอาร์ต อินดี้ และ Unique เหมือนเข้าถึงได้ยาก แต่แอบดูผ่อนคลายในมุมเงียบๆ ของ Cafe กับขนมที่วางตรงหน้าอย่าง โนอาห์พุดดิ้งที่ดูเรียบง่ายแต่มากด้วยที่มาของส่วนผสม

เหมาะสำหรับ - กลิ่นลงไว้ว่า Unisex ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น เพราะกลิ่นออกทางมีความเฉพาะ แปลกเก๋ มีสไตล์ที่ชัดเจนยืนพื้นที่โทนขรึมแต่มีพลัง ซึ่งกลิ่นอาจจะไพล่ไปทางผู้ชายมากกว่าหน่อยเพราะความเป็นโทนปร่าพริกไทยค่อนข้างมาชัดพอสมควร แต่ถ้าผู้หญิงที่ต้องการความแตกต่างก็สามารถจัดตัวนี้ได้ เพราะจะดูน่าค้นหาเสียด้วย ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน แบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม เพราะกลิ่นชัดพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นใส่ทั่วๆ ไปทั้งทำงาน Office หรือผ่อนคลายแบบเงียบๆ เอาจริงๆ ใส่ออกงานทางการได้ เจอผู้คนได้ แต่อาจจะต้องคำนึงประเภทของงานหน่อย เพราะกลิ่นค่อนข้าง Unique และอาร์ต ถ้างานที่ต้องการความ Nice มากๆ อาจจะไม่ได้เอื้อนัก แต่ถ้าต้องการความนิ่งสุขุมละก็ เข้าทางมากเลยทีเดียว (แต่จำกัดสเปรย์แบบพอดีๆ) แต่ให้ตัดการใส่เพื่อออกกำลังกายไปได้เลย กลิ่นไม่เข้าทางทุกประการ ส่วนยามค่ำคืน ถือว่าเป็นอีกตัวที่สร้างความแตกต่างและมีสไตล์ที่น่าค้นหาและลึกลับแบบที่ไม่เหมือนใครได้เลย 

ความทน - กลิ่นทนดีงาม กับพื้นฐานที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และมากกว่านั้นได้สบายมาก ส่วนเจอเจอที่ 12 ชม. สบายๆ กับการใช้งานที่ 5 สเปรย์ 

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น เรียกว่าโทนพริกไทยมาชัดเจนเคล้ากลิ่น Fig กับโทนถั่วอัลมอนด์ เจือเมทัลลิคติดฟรุตตี้ผลไม้กันได้ชัดเจนมาก แล้วจะลดลงมากระจายปานกลางในช่วงกลางแบบสายขรึมและน่าค้นหา ก่อนจะปิดท้ายด้วยออร่ารอบๆ ตัวในโทนโปร่งติดสบายๆ แต่มีเสน่ห์เฉพาะตัว

ทิ้งท้าย - จากที่ผ่านมาในแต่ละรุ่นของ Collection แรกของ Cafe de Parfum ต้องบอกว่ากลิ่นนี้มีความเป็น Niche Perfumery ที่ชัดเจนมากที่สุด โดยมีกลิ่นอายของส่วนประกอบของการเป็นขนมอาซูรอแบบทางตุรกี ความขรึม ความขลัง และความอาร์ต ที่แฝงไปด้วยความเรียบง่ายเจือในเนื้อกลิ่นอย่างมีมิติจากการผสมผสานออกมาได้อย่างมีชั้นเชิงมากอีกหนึ่งรุ่นของแบรนด์นี้ เรียกว่าต้องยอมและยกนิ้วชื่นชมเลย เพราะกลิ่นชัดเจนในทิศทางที่แตกต่างแต่มีเสน่ห์มากจริงๆ 

หมายเหตุ: 
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน 
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ

Photo Credit - Page_Cafe de Parfum -https://www.facebook.com/cafedeparfumth/photos/a.184890795399077/204831376738352/?type=3



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น