Review: Kenzo - Tokyo
Kenzo - Tokyo
โตเกียวในยามเย็นสู่ยามค่ำคืน จากที่เราๆ
ได้สัมผัสและเห็นจากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งแสงสีต่างๆ จากธรรมชาติทั้งเหลือง
ส้ม และแดงยามพระอาทิตย์อัสดง หรือว่าจะเป็นแสงสีจากหลอดไปและนีออนต่างๆ
ที่ตัดกับสีดำเข้มของท้องฟ้ายามค่ำคืน รวมถึงสีเขียวที่อยู่ท่ามกลางแสงสว่างต่างๆ ของต้นไม้ที่ต้องเป็นหนึ่งในซีนที่เราได้เห็นเสมอ
ทุกอย่างคือองค์ประกอบที่มีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ทำให้เราอยากไปยืนหรือไปเยือน
(ซ้ำแล้วซ้ำอีก) ได้ไม่ยากเลยทีเดียว
ซึ่งทั้งหมดนี่แหละ
คือแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์น้ำหอมของ Kenzo
ที่ได้สร้างกลิ่นอายของโตเกียวไล่เรียงตั้งแต่ยามเย็นจนถึงค่ำคืน
โดยเน้นที่สีสันต่างๆ ของแต่ละ Notes กลิ่นมาผสมผสานผสาน
จนกลายเป็นการ Tribute กลิ่นออกมาถึงความเป็น Tokyo ในลักษณะนี้เลย
Top Notes จะให้ความเป็นโทนกลิ่นออกทางสีเหลืองกันก่อนเลยกับการเปิดตัวด้วยกลิ่นขิงคลอกับโทน
Citrus ที่มีกลิ่นเปรี้ยวหอมเจือแปร่งหน่อยๆ
แต่สร้างความกระฉับกระเฉงของเกรปฟรุต โดยจะให้โทน Citrus Spicy โปร่งๆ สดชื่นเจือหวานปลายจางๆ ไม่อุ่นไปหรือเย็นไป
มีความกำลังดีตั้งแต่ต้น โดยกลิ่นของขิงนี่แหละที่จะเป็นเหมือนตัวเดินกลิ่นหลักที่อยู่ตั้งแต่ต้นยันปลายให้ความรื่นรมย์สไตล์
Fresh Spicy ไปตลอด แล้วเพียงชั่วครู่กลิ่นชาเขียวจะเสริมขึ้นมาให้ความเขียวอ่อนๆ
อะโรม่าเจือ Spicy แล้วกลิ่นโทน Citrus ก็ค่อยๆ ดรอปลงไป จนกลายเป็น Middle Notes ที่กลิ่นจะเป็น
Aromatic Spicy ให้โทนสีของกลิ่นที่มีมิติให้จับต้องได้ทั้งเหลืองจากขิงและเกรปฟรุต
กลิ่นโทนเขียวผ่อนคลายของชาเขียวอ่อนๆ แต่จะเพิ่มความเป็นสีส้มของส้มขม
(Bitter Orange) ที่ให้โทนกลิ่นออกทางสีส้มแบบน้ำส้มใสๆ
เสริมด้วยโทนกลิ่นสีแดงของพริกไทยสีชมพูที่ให้ความนวลไพล่ไปทรางโทนกุหลาบเคล้า
Spicy นวลๆ และแอบมีโทนปร่านุ่มหน่อยๆ กับไม้หอมเนียนๆ
อยู่ในเนื้อกลิ่นด้วย ซึ่งจะผสมผสานกันออกมาเป็นกลิ่นชากับไม้หอมรองพื้นและให้ความเป็นโทนเผ็ดนุ่มเจือ
Citrus เป็นเลเยอร์นำอยู่บนของกลิ่นให้ได้รับรู้ชัดเจนเป็นสเต็ปลงมา
ซึ่งช่วงกลางนี้ ถือว่าเป็นช่วงที่ให้ความมีมิติของการผสมผสานโทนกลิ่นได้ลงตัว
และให้อารมณ์กลิ่นสื่อถึงโทนสีได้อย่างแตกต่างได้เลยทีเดียว
และเมื่อกลิ่นเริ่มมีการขยับโทนให้ความเป็นไม้หอมติดขรึมๆ
นิ่งๆ มีความโปร่งเจือความ Smoky อ่อนๆ ของไม้ซีดาร์และไม้ Guaiac (ที่จะให้กลิ่นติด Smoky
เจือน้ำมันดินอ่อนๆ) เด่นขึ้นมาตีคู่กับโทนเผ็ดนุ่มที่ยังคงชัดเจนอยู่
โดยจะยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นขิงที่มีแบบเบาๆ แต่กลิ่นจะมีความกลมกล่อมปร่านุ่มเข้าโทนไม้หอมมากขึ้นจากเม็ดจันทน์เทศ
และมีความซ่าหน่อยๆ ของกานพลูให้พอสัมผัสได้แบบเบาๆ กำลังดี
ทำให้ช่วงได้ได้ความเป็นโทนติดออกทาง Dark แต่ยังโปร่ง
เข้าทางกลิ่นอายสุภาพบุรุษสบายๆ และน่าค้นหาได้อย่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว
เหมาะสำหรับ -
ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป สามารถใช้ตัวนี้ได้สบายมาก
กลิ่นเข้าถึงได้ง่าย แต่ไม่ได้ไก่กา และมีระดับมากกว่าที่คิด
โดยสามารถใส่ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป
จะมีก็แต่กิจกรรมลุยๆ กับออกกำลังกายที่อาจจะไม่ค่อยเข้าทางนัก
ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นจะเหมาะกับแนวๆ สบายๆ เรื่อยๆ โรแมนติค หรือชิลล์ๆ
มากกว่าที่จะใส่ไปท่องราตรีปาร์ตี้สุดเหวี่ยง เพราะกลิ่นไม่ได้มาสายกระจายสร้างความโดดเด่นอะไรนัก
ความทน - ราวๆ 4 - 8 ชม. แล้วแต่สภาพอากาศ สภาพผิว
และจำนวนสเปรย์ เพราะส่วนตัวถือว่าตัวนี้ค่อนข้างแกว่งตามแต่ละสถานการณ์เลย
วันไหนอากาศร้อนจัดๆ เหงื่อซึม 4 ชม. ก็ถือว่างดงามแล้ว
วันไหนอากาศดีๆ หน่อย ไม่ร้อนมาก 6 - 8 ชม. ก็ได้สบายมาก
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น
แล้วจะดรอปมาที่ออร่ารอบๆ ตัวในเวลาไม่นาน ก่อนจะกลายเป็น Skin Scent ต่อมา ซึ่งถ้าอิงลักษณะแบบน้ำหอมสไตล์ญี่ปุ่นแล้วก็ใช่เลย
เพราะกลิ่นจะไม่รบกวนใครเท่าไหร่นั่นเอง
ทิ้งท้าย -
กลิ่นให้ความรู้สึกเป็นโตเกียวได้ดี และมีความเป็นกลิ่นอายแบบผู้ชายตะวันออกหรือจะเป็นผู้ชายแบบญี่ปุ่นที่ติด
Cool เท่ห์สบายๆ
แต่ยังมีความสุภาพได้อย่างลงตัวมาก ซึ่งเสียดายจริงๆ ที่กลิ่นนี้ #เลิกผลิต ไปพักใหญ่แล้ว
(เบื่อชะมัด ของดีมักเลิกผลิต)
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - เข็มขัดสั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น