Maison Francis Kurkdjian - Oud Velvet Mood
ผ่านสาย Oud ของ Maison Francis Kurkdjian มาแล้ว 1 รุ่น ที่สื่อสารถึงความพลิ้วไหวของผ้าซาตินกับอารมณ์ของความเป็น Oud ก็ได้เวลามาสู่รุ่นที่
2 กับการสื่อสารถึงคำว่า Velvet หรือผ้ากำมะหยี่
Mix รวมกับความเป็น Oud กันบ้าง
ซึ่งจะออกมาในรูปแบบกลิ่นอย่างไร และทำให้รู้สึกถึงคำว่ากำมะหยี่มากน้อยแค่ไหน ว่ากันที่รุ่นนี้เลย Oud
Velvet Mood
เปิดตัวมาแบบทำเอาอึ้งได้เลยทีเดียว
โดยจะเด่นที่กลิ่นออกทางเครื่องเทศแนวหวานปนขมเด่นของหญ้าฝรั่นที่ติดเมทัลลิคโลหะที่ค่อนข้างมาชัด
โดยจะมีกลิ่นโทนลักษณะแบบ Oud ทืี่ไม่ได้มาสายอวลลึก
แต่ค่อนไปทางเนื้อไม้ติดขมไหม้ มีกลิ่นออกทางหนังหน่อยๆ
ซึ่งก็มาแบบโทนไหม้เช่นกัน ทำให้กลิ่นจะมีลักษณะออกทางยาก็ได้
หรือออกทางพลาสติคหลอมก็ได้ พวกเครื่องจักรที่มีกลิ่นอึนๆ ออกมา
ซึ่งทำให้ได้อารมณ์ลักษณะแบบเดินอยู่ในโรงเก็บพลาสติคที่หลอมเสร็จไม่นานแล้วรอบข้างมีเผายางอะไรซักอย่าง
หรือกลิ่นออกทางพลาสติคพวกคอนโซลที่โดนแดดร้อนๆ ในรถยนต์พอสมควร
ซึ่งเปิดต้นมากลิ่นเองก็มีความแปลก และเข้าลักษณะกลิ่นอายที่ไม่ได้ง่ายในการใช้งาน
แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงกลาง
กลิ่นอายเริ่มพัฒนามาสู่โทนกลิ่นที่เริ่มมีความพลิ้วไหวเข้ามาและลดความแปลกห่ามในตอนต้นไปเยอะพอสมควร
เพราะกลิ่นที่จะเด่นเป็นสง่าเลยคือ หญ้าฝรั่น ที่จะเป็นเหมือนตัวเด่นนำแบบยาวไปจนถึงช่วงท้าย
ให้ความเป็นโทนขมติดปลายหวานและยังมีความรู้สึกของโทนเมทัลลิคอยู่บ้าง
รวมถึงความเป็นโทนหนังหน่อยๆ ที่แฝงอยู่ ซึ่งจะมีตัวสนับสนุนดีจากกลิ่นอบเชยที่โดนเกลาความอุ่นร้อนลงไปเหลือแต่โทนหวาน
เคล้ากับกลิ่นยางไม้และกลิ่นออกทางคล้ายเวลาเผาไม้เนื้อดำเจือกลิ่น Oud ที่ให้อารมณ์แบบ Incense สีดำที่ให้ควันอ้อยอิ่งแบบขรึมๆ ดาร์ก ทำให้ช่วงนี้กลิ่นจะสร้างออร่าสีโทนเข้มกันอย่างชัดเจนและเริ่มมีลักษณะที่เป็น
Velvet หรือกำมะหยี่ที่ให้โทนสีออกเข้มด้วยเช่นกัน
โดยที่จะจับต้องได้ถึงกลิ่นที่ออกทางเย็นนิ่ง ไม่ได้ไปสายอุ่นและมีความเป็นโทนตะวันออกกลางชัดเจนมากนัก
จนเมื่อค่อยๆ มีความเปลี่ยนแปลงเพราะกลิ่นของหญ้าฝรั่นจะลดทอนลง
เหลือความขมเจือหวานปลายให้พอจับต้องได้ โดยให้โทนกลิ่นอายแนวยางไม้เด่นขึ้นมาและมีกลิ่นติดหวานปลายอบเชยที่ติดไหม้ตีคู่กับกลิ่นแนว
Oud ที่ค่อนไปทางดาร์กขมลึก ซึ่งกลิ่นให้ความรู้สึกโทนเข้มกลิ่นออกทางอากาศปน
Spicy Smoky ไม้สีดำเผาที่มีความอุ่นอยู่ประปราย
โดยที่ยังมีกลิ่นออกทางเมทัลลิคเจืออยู่บ้าง ให้ความเป็นโทนไม้หอมดาร์กปนอวลแบบที่ไม่แน่นหนักเกินไปและมีความเป็นสีออกทางเทาเข้มพอสมควรในช่วงท้ายนั่นเอง
เหมาะสำหรับ - Unisex ชัดเจน เพราะกลิ่นเป็นลักษณะที่ออกทางสภาพแวดล้อมเสียมาก
มีความแปลกไม่เหมือนใคร เรียกว่ามาสาย Niche และ Unique
ได้เลย ซึ่งจะเหมาะกับหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวัน
สำหรับเวลาที่ต้องการให้กลิ่นจะเสริมบุคลิกที่น่าค้นหาและขรึมเงียบนิ่ง
แต่มีอะไรที่ดึงดูดเข้ามาร่วมด้วย ถ้าเป็นยามทางการอาจจะต้องเลือกให้เหมาะกับงานนิดนึง
แต่ถ้าทั่วๆ ไปก็ตามสะดวก เพียงแต่เพลาๆ จำนวนสเปรย์ให้เหมาะสมและไม่หนักมือเกินไปก็พอ
ที่สำคัญตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย
ส่วนยามค่ำคืนกลิ่นมันแปลก และสร้างความเก๋แบบเทาเข้มค่อนไปทางสีดินติดดำได้อยู่
ถ้าต้องการแปลกและแตกต่างในการนำเสนอ ก็สามารถใส่ออกงานหรือว่าท่องราตรีได้เช่นกัน
ความทน -
มากกกกกกก 15 ชม.
กลิ่นยังคงมีอยู่ เรียกว่ามีความจัดจ้านในย่านนี้ตีคู่กับสุดจัดปลัดบอกได้เลย
การกระจาย -
ดีมากในช่วงต้น ก่อนจะลดลงไปกระจายดีแบบเสถียรยาวไปจนถึงช่วงท้าย
ให้กลิ่นอบอวลพอสมควร แถมถ้าเข้ากับผิวจะทิ้งกลิ่นคงค้างไว้ในห้องที่ฉีดไประยะนึงเลยทีเดียว
ซึ่งเมื่อผ่านไปซัก 8 ชม.
กลิ่นจะค่อยๆ เป็นออร่ารอบๆ ตัวไปเรื่อยๆ ไม่หายไปไหนง่ายๆ ด้วย
ทิ้งท้าย -
กลิ่นโทน Oud ไม่ได้เป็นตัวเด่นนัก
เพราะจะมาแบบเป็นตัวสนับสนุนให้กลิ่นมีมิติที่น่าค้นหาท่ามกลางกลิ่นที่มีความ
Unique เสียมากกว่า ซึ่งกลิ่นที่มาเต็มมาชัดเลยจะเป็นหญ้าฝรั่น
ที่ทำให้กลิ่นมีลักษณะของความเป็นโทน Velvet หรือกำมะหยี่ชัดขึ้น
ซึ่งถ้าดูจากชื่อรุ่นก็ไม่ได้ผิดแผกอะไร เพราะ Oud มาเจอกับ
Velvet Mood ที่ค่อนไปทางดาร์ก แปลก
และมีความเทาเข้มในเนื้อกลิ่น ทำให้กลิ่นนี้มีความเป็น Niche Perfume ที่ชัดเจนที่สุดของแบรนด์ได้เลยทีเดียว
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ
ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://www.justfragrance.org/perfume/francis-kurkdjian-oud-velvet-mood/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น