Diptyque - Essences Insensees Tiare
การเปิดตัวของ Limited Edition ที่เป็น Collection เฉพาะอย่าง Essences Insensee เมื่อ ปี 2014 ของ Diptyque กับกลิ่นอายสายอะโรม่าเน้นที่โทนดอกไม้เป็นหลัก ที่มาพร้อมกับขวดสวยๆ และมีหัวฉีดที่หรูหราแบบหัวผ้าที่ใช้บีบในการพ่นสเปรย์ ถือเป็นอีกหนึ่งสายน้ำหอมที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะในแต่ละปีนอกจากรูปลักษณ์ของขวดจะแตกต่างกันไปแล้ว กลิ่นที่เอาความเป็นดอกไม้แต่ละประเภทมาชูโรงก็แตกต่างด้วยเช่นกัน ซึ่งได้ดำเนินมา 3 ปี จนถึงปี 2016 แล้วก็หายไป
แต่ในปี 2019 สายนี้ก็ได้เวลากลับมาอีกครั้ง แน่นอนขวดยังคงมีความงดงามและหรูหราเช่นเคย โดยยังคงเจาะจงไปที่กลิ่นดอกไม้เช่นเดิม และก็เลือกเอากลิ่นโทนดอกพุดแสงอุษา หรือดอก Tiare มานำเสนอ เช่นนั้นจัดไปอย่าได้เสีย และก็สามารถเรียบเรียงกลิ่นออกมาเล่าต่อได้แบบนี้เลย
จากที่ได้ใช้น้ำหอมกลิ่นดอกพุดแสงอุษา หลังจากนี้จะขอเรียกว่า Tiare มักจะเจอกลิ่นอายสไตล์ซันแทนครีมมี่เกาะเมืองร้อน แต่บอกเลยว่า ตัวนี้ไม่ใช่แบบนั้นแม้แต่น้อย เพราะว่ามาสายกลิ่นอายติดเขียวปนดอกไม้ขาวที่มีโทนวานิลลาอ่อนๆ และมีกลิ่นอายติดเค็มๆ นิดๆ ตามธรรมชาติสิ่งแวดล้อมของดอกไม้ประเภทนี้เติบโตคือแถบเกาะเมืองร้อน ซึ่งช่วงเปิดจะเป็นการปลดปล่อยความเขียวสดชื่นเคล้ากลิ่นติดฝาดปร่าหน่อยๆ ซึ่งเนื้อกลิ่นจะมีโทนดอกไม้ขาวเป็นตัวแฝงอยู่ฉากหลัง กลิ่นจะมีลักษณะแบบดอกไม้ขาวบานตอนเช้าเคล้าน้ำค้างติดชื้นๆ ปนกลิ่นเค็มอ่อนๆ ของบรรยากาศ และกลิ่นเขียวๆ ของพืชพันธุ์ต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเปิดที่ทำให้ประทับใจได้เลย เพราะกลิ่นมีความอะโรม่าและเป็นธรรมชาติ รวมถึงแอบมีความน่ารักสบายๆ ในกลิ่นอีกด้วย
เมื่อเข้าช่วงกลางโทนเขียวจะยังอยู่และกลิ่นจะไม่ได้มีความชื้นของบรรยากาศเท่าไหร่แล้ว แต่ยังจะได้ความรู้สึกเย็นๆ ในกลิ่นอยู่ชัดเจน ที่สำคัญช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ดอกไม้ขาวจะเป็นตัวเดินกลิ่น โดยมีโทนเขียวๆ พืนพันธุ์ใบไม้ไใบหญ้าหรือเมือกเขียวใสๆ ตามธรรมชาติเป็นตัวสนับสนุนแทนแล้ว ซึ่งช่วงนี้กลิ่นของดอก Tiare เองก็ไม่ได้ครีมมี่เด่นอะไรนัก ออกแนวติดนวลอ่อนๆ ครีมมี่บางๆ แต่จะมีกลิ่นของดอกลีลาวดีที่มาร่วมผสมโรงแย่งซีนไปพอสมควรกับความหอมติดหวานเย็นๆ ระเรื่อจมูกที่ทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายรื่นรมย์แบบดอกไม้ขาวเย็นๆ เจือความเขียวสดชื่นกำลังดีไปตลอด จนเมื่อโทนเขียวๆ เริ่มจางไปตามลำดับ กลิ่นจะเริ่มนวลมากขึ้นตามลำดับจนกลายเป็นกลิ่นโทนหวานนวลติดครีมมี่อ่อนๆ โดยมีวานิลลาเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันในการสร้างโทนกลิ่นหอมนวลกับดอกไม้ขาว กลิ่นยังคุมโทนความครีมมี่อ่อนๆ อยู่ แต่จะได้ความสว่างนวลที่สบายๆ อะโรม่ารื่นรมย์กำลังดีไปตลอด แต่จะไม่ได้ทื่อเกินไปนัก เพราะจะยังคงมีความเขียวบางเบาเคล้ากลิ่นเครื่องเทศปร่านวลอ่อนๆ ที่สร้างอะโรม่าให้ความหวานนวลรื่นรมย์แบบที่ไม่ได้หนักหน่วง อารมณ์กลิ่นดอกดอกไม้ขาวของ Tiare ที่ติดระเรื่อๆ อ่อนๆ ครีมมี่บางๆ ที่ลอยตามลมสร้างความผ่อนคลายไปเรื่อยๆ นั่นเอง
เหมาะสำหรับ - กลิ่นนี้ออกแนวเป็นกลิ่นโทนสภาพบรรยากาศโดยมีดอกไม้เป็นตัวชูโรง จึงมีความ Unisex ที่ชัดเจนมาก อาจจะมีไพล่ไปทางผู้หญิงมากกว่านิดหน่อย แต่เพราะกลิ่นไม่ได้หนักหน่วง เลยไม่ว่าเพศไหนก็ใช้ไปเถอะ ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใช้ได้แทบจะครอบจักรวาลทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย จะมีก็แต่การใส่เพื่อออกกำลังกายที่ไม่ค่อยเข้าทางเท่าไหร่ เพราะกลิ่นนี้ออกทางกลิ่นสายอะโรม่ามีระดับมากกว่าจะเอาไปสู้เหงื่อ ส่วนยามค่ำคืนเน้นแค่ใส่เพื่อผ่อนคลายหรือชิลล์ๆ ก็พอ เพราะกลิ่นเบาไปในการเอาไปสู้กับการท่องราตรี
ความทน - กลิ่นทนเกินคาด แต่ก็มีแกว่งอยู่ เพราะอิงตามสภาพผิวพอสมควร ถ้าเอาเฉลี่ยก็ประมาณ 6 ชม. เป็นสำคัญ แต่ถ้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะสภาพอากาศ ผิวกาย และจำนวนสเปรย์ลงตัว กลิ่นนี้สามารถทนลากยาวไปได้ถึง 12 ชม. ได้เลยทีเดียว
การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะลดลงมากลางๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลายเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวๆ ไป จนเมื่อพ้นซัก 5 ชม. จะเริ่มเป็น Skin Scent ที่ติดผิวไปเรื่อยๆ ตีขึ้นยามขยับเนื้อตัว
สรุป - กลิ่นน่ารัก สบาย และสร้างอะโรม่าที่รื่นรมย์ได้ดีในสไตล์มินิมัลและเป็นธรรมชาติได้ดีเลยทีเดียว ที่สำคัญกลิ่นลักษณะนี้อาจจะไม่ได้หวือหวาโฉ่งฉ่าง แต่บอกเลยว่ามันเรียบหรูในตัวสูงมากเลยทีเดียว เสียอย่างเดียวราคาพีคแล้วพีคอีก
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”
Photo Credit - https://www.diptyqueparis.com/en_uk/p/essences-insensees.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น