วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

Review: Ferrari - Leather Essence


Ferrari - Leather Essence

การจะมองหาน้ำหอมกลิ่นหนังดีๆ ที่ใช้ง่ายสำหรับมือใหม่หัดลองกลิ่นหนังเอาจริงๆ จะว่าไปก็ไม่ได้ง่ายมากนัก เพราะโทนกลิ่นมันมักจะมีความเป็น Animalic สาบหนังแบบที่อาจจะทำให้อึดอัด หรือบางครั้งกับอากาศเมืองไทยบ้านเราการใช้กลิ่นหนังมันก็จะดูหนักไป (เน้นเฉพาะสื่อสารกลิ่นหนังตรงๆ) แต่ใช่ว่าจะไม่มี กับแบรนด์ที่รู้จักกันดีกับการเป็นแบรนด์ Supercar ที่อยู่ในวงการน้ำหอมมาตั้งต่ปี 1999 อย่าง Ferrari ที่ได้ปล่อย Collection - Essence ออกมาเน้นที่ Note กลิ่นเด่นๆ โดยหนึ่งในนั้นก็มีรุ่น Leather Essence ที่ชูโรงกลิ่นหนังกับเขาด้วย ความดีงามจะปูทางออกมาอย่างไร ว่ากันตามนี้เลย

แรกฉีดความรู้สึกจะบอกกันอย่างชัดเจนเลยว่า กลิ่นนี้มาสายอวลแบบไม่หนักและเข้าถึงง่ายกว่าที่คิด เพราะเปิดต้นทางมาจะมีอารมณ์กลิ่นวูบของโทน Citrus ติดใสๆ ของส้มขมที่มีความติดปลายขมอารมณ์แบบกลิ่นมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) เจือๆ เข้ามาเจอกันก่อน แต่ก็จะตามด้วยกลิ่นอายโทนเครื่องเทศมาแทรกแซงแบบไวสุดๆ อย่างอบเชยที่ให้ความอวลอุ่นแกมความปร่าของกานพลูที่ไม่ได้มาหนักหน่วงมาก โดยพื้นกลิ่นจะมีความนวลออกทางลาเวนเดอร์แกมกลิ่นหนังที่ไม่ได้หนักมากนัก ทำให้กลิ่นในช่วงต้นมิติจะค่อนข้างลงตัวกับการเปิดตัวแบบสายเครื่องเทศอบอุ่นแกมปร่าที่มีความนวลกำลังดี อวลกำลังงาม ฉาบหน้าความเป็นหนังเบาๆ ได้ดีเลย

เมื่อความเป็นโทน Citrus ประปรายทั้งหลาย โบกมือลาไปจนหมดแล้ว ก็ได้เวลาของการเจอกันอย่างลงตัวของโทนเครื่องเทศที่แน่นอนว่ายังคุมโทนความอบอุ่นเจือปร่าอยู่ และแอบมีกลิ่นติดออกทางไม้หอมหน่อยๆ แกมความหวานอุ่นตามโทนที่ควรจะเป็นของอบเชยและกานพลูที่สมดุลย์กำลังดี ตีคู่กับโทนหนังที่เริ่มชัดเจนมากขึ้นตามลำดับ แต่ก็ไม่ได้หนักหน่วงติด Animalic นัก กลิ่นจะให้อารมณ์แบบเบาะหนังชั้นดีแบบกลางๆ ซึ่งเมื่อเจอกันจะได้อารมณ์หนังติดอบอุ่นเจือหอมอวลเครื่องเทศ แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะอีกหนึ่งโทนที่จะเข้ามาร่วมทำให้กลิ่นในช่วงนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นนั่นคือสายเครื่องเทศ Oriental ของถั่วตองก้าที่จะให้ความนวลครีมมี่กึ่งวานิลลากึ่งยาสูบออกทางโทนแป้งที่มีความหวานอวลกำลังดี ที่จะเข้ามาเป็นผู้เล่นในการผสมผสานด้วย ซึ่งต้องบอกเลยว่าช่วงนี้คือ การเล่นโทนเครื่องเทศที่น่าสนใจมากกับเลเยอร์ที่มีความอบอุ่นติดปร่าไม้หอมซ้อนด้วยความอวลนุ่มหอมติดหวานแบบสมดุลย์บนผืนหนังที่เป็นพื้นกลิ่นได้ลงตัวมากและเกินคาดเลยก็ว่าได้ เพราะกลิ่นมีความสมดุลย์มากจริงๆ แม้ว่าโทนหนังจะยังไม่ได้เป็นตัวเอกหลักมากนัก แต่ก็จับต้องได้ตลอด

แต่ก็ปรามาสความเป็นหนังไม่ได้นะ เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงท้าย กลิ่นหนังนี่แหละที่จะเป็นตัวหลักที่คุมโทนกลิ่นทั้งหมดแบบกลิ่นหนังสะอาดๆ ไม่มีโทนสาบปนกลิ่นออกวานิลาเคล้ากลิ่นถั่วตองก้าที่มาในโทนแป้งอบอุ่นที่ทำให้กลิ่นมีความนวลละมุนเข้ามาร่วมด้วย แต่เนื้อกลิ่นก็ไม่ได้มีเท่านี้ เพราะว่าจะมีความเป็นไม้หอมติด Smoky อ่อนๆ ติดโทนไม้หอมที่ทำให้กลิ่นหนังมีลูกเล่นที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น และยังมีความระเรื่อปลายกลิ่นติดหวานโปร่งเย้าเบาๆ ของพิมเสนและกลิ่นอบเชยอ่อนๆ ที่พอจับได้บางๆ ทำให้กลิ่นในช่วงนี้เป็นโทนหนังที่ให้ความนุ่มนวลติดอวลอุ่นกำลังดีและมีความสะอาดแกม Dirty บางๆ ที่ให้ความเท่ห์แกมมีระดับแบบที่เข้าถึงได้ง่าย ปิดท้ายการเป็น Leather Essence ที่เหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาในความสมดุลย์ของกลิ่นจริงๆ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไปก็สามารถใช้ตัวนี้ได้แล้ว เพราะเป็นกลิ่นหนังที่เข้าถึงได้ง่าย โดยที่ไม่ได้มีความหนักหน่วงดิบห่าม หรือว่าสาบปลุกเร้าจัดๆ อะไรแต่อย่างใด แถมด้วยความหอมอบอุ่นเครื่องเทศนวลๆ ที่มีเสน่ห์อีกด้วย ซึ่งกลิ่นนี้สามารถใส่ได้แทบทุกสถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไป จะมีก็แต่กิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายที่รอปลายช่วงกลางๆ จะดีกว่า เพราะกลิ่นอาจจะตีขึ้นเยอะเอาได้เวลาร่างกายทำความร้อนหรือโดนอากาศร้อนจัดๆ ส่วนยามค่ำคืนอัดสเปรย์หน่อย ก็ปล่อยของได้ไม่ยากไม่ว่าจะออกงาน โรแมนติค หรือว่าท่องราตรี

ความทน - ลงตัวกับค่าเฉลี่ยที่ 8 ชม. เป็นสำคัญ และสามารถไปได้มากกว่านั้นอีกถ้าจำนวนสเปรย์และสภาพผิวเอื้อมากพอ โดยส่วนตัวเจอไปที่ 12 ชม. สบายๆ กับการใช้ที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กระจายดีในตอนต้นแค่ไม่นานก็จะกลายเป็นปานกลางกันไปเรื่อยๆ พอพ้นซัก 4 ชม. ที่เหลือจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวแล้ว ก่อนจะค่อยๆ ปรับสภาพเป็นติดผิวหลังพ้นประมาณ 6 ชม.

สรุป - หลายๆ คนอาจจะมองว่า Ferrari เองทำน้ำหอมไม่ได้พีคหรือหวือหวา แต่มองในแง่ความเป็นจริงในการใช้งานบอกเลยว่า แบรนด์นี้ปรามาสไม่ได้เลย เพราะกลิ่นเองมีมาตรฐานที่ดีไม่ด้อยไปกว่าใคร และยังสร้างสรรค์กลิ่นหนังที่มีความสมดุลย์ในการสร้างออร่าความเท่ห์ปนอบอุ่นได้อย่างลงตัวและไม่ธรรมดาเสียด้วย เรียกว่าใครที่ต้องการกลิ่นหนังแบบที่ไม่หนักและใช้ง่าย ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเป็นลำดับต้นๆ เลยล่ะ

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”

Photo Credithttps://www.incenza.com/6-parfums/17-parfum-homme/26079-ferrari-leather-essence/73104-ferrari-leather-essence-eau-de-parfum.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น