วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

Review: Parfum Prissana - Nimitr


Parfum Prissana - Nimitr

ว่ากันด้วยเรื่องน้ำหอมของผู้ชายในช่วงยุค 80 - 90 ที่ปัจจุบันเรียกว่าได้เป็นสาย Classic ที่อาจจะมีทั้งยังคุมโทนความเป็นลักษณะกลิ่นสไตล์ Vintage ที่ฟุ้งๆ เข้มๆ คมๆ หรือประยุกต์มาแตะโทนที่มีความ Aromatic มากขึ้น ที่กลิ่นเปิดอาจจะเด่นที่ Citrus ก่อนค่อนมาเจอกับกลิ่นอายสไตล์ฟุ้งอวลซึ่งถือว่าเป็นยุคเป็นจุดเปลี่ยนที่เพิ่มความหลากหลายทางกลิ่นน้ำหอมชายให้มีความแตกต่างมากขึ้นและมีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวแบบรอยต่อระหว่างความ Classic สู่ Modern ซึ่งหลายๆ คน ที่อาจจะไม่ได้คุ้นชินกับน้ำหอมกลิ่นอายแบบนี้ อาจจะมองว่ากลิ่นโบราณ กลิ่นแก่ กลิ่นแบบคุณพ่อ คุณปู่ยังหนุ่มอะไรก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งหมดมันคือ รากฐานของน้ำหอมในยุคปัจจุบันและเป็นหนึ่งในความเหนือกาลเวลาทางกลิ่นที่มีเสน่ห์และทรงคุณค่ามาก แม้ไม่อินในตอนนี้ แต่พอผ่านน้ำหอมไปพอสมควรและมีอายุที่มากขึ้น ก็จะมาแตะกลิ่นอายสาย Classic และอินจนรักโทนกลิ่นแบบนี้ไปไม่รู้ตัว

เมื่อปูทางความเป็นโทน Classic มาแล้ว ก็มาที่การเล่ากลิ่นที่จะเอาความเหนือกาลเวลาทางกลิ่นมานำเสนอกับแบรนด์ไทยที่มี Concept การจัดหนักในเรีื่องคุณภาพ ความซับซ้อน งานศิลปะและการ Tribute กลิ่นอายสาย Classic Vintage ออกมาเป็นน้ำหอมอย่าง Parfum Prissana ที่เคยผ่านการเล่ากลิ่นไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 รุ่น อย่าง Le Cirque Bleu และ Apsarah และคราวนี้ก็มาถึงตัวที่ 3 อย่าง Nimitr ที่จะมาในรูปแบบใดของการเป็นโทน Vintage ก็ถ่ายทอดกลิ่นออกมาได้ในลักษณะนี้เลย

Leather Classic Scent กันอย่างชัดเจนมาก ซึ่งเป็นกลิ่นอายของน้ำหอมชายที่มีเสน่ห์สุดๆ ในช่วงยุค 80 - 90 เลยทีเดียว เพียงแต่ Nimitr จะมีลูกเล่นที่ไม่ได้เน้นที่ความเป็น Vintage เด่นนำเพียงอย่างเดียว แต่ใส่ลายเซ็นโทน Incense เข้าไปเพื่อให้โทนกลิ่นมีความ Modern เนียนๆ รวมอยู่ด้วย ซึ่งช่วงเริ่มต้นจะเป็นโทน Aldehydes ที่เป็นตัวนำกลิ่นในลักษณะของทางสบู่คมๆ ฟุ้งๆ ที่พาพรรคพวกอย่างสาย Citrus มาร่วมด้วยอย่างส้มที่มาแบบโทนออกทางติดเปลือกส้มหน่อยๆ และมีกลิ่นเปรี้ยวเจือหวานปลายของเลมอนที่ผสมผสานอยู่ใAldehydes จนแทบเป็นเนื้อเดียวกัน โดยที่ีจะมีโทนสมุนไพรเคล้าเครื่องเทศเผ็ดปร่าโปร่งๆ และโทนเขียวเข้ามาร่วมด้วยอย่างลาเวนเดอร์ ใบกระวาน และคลารี่เซจ ที่ทำให้กลิ่นมีความเป็นสบู่คมเคล้าโทนสมุนไพรปร่าอวลชัดเจน รวมถึงมีโทนเขียวเมือกนิดๆ ของไฮยาซินท์ และกลิ่นออกทางติดผลไม้เย้าๆ ที่เข้ากับ Aldehydes ได้ดีอย่างลูกพลัมเข้ามาร่วมด้วย รวมถึงเนื้อกลิ่นจะมีโทนออกทาง Incense ธูปอวลเนียนๆ ให้จับต้องได้อีกเลยทำให้กลิ่นจะซับซ้อนมีเลเยอร์ต่างๆ ที่รวมเข้าด้วยกันอย่างมีชั้นเชิง ที่สำคัญมีตัวเสริมที่ทำให้กลิ่นพุ่งเข้าไปอีกอย่างยางไม้ Galbanum ที่ให้ความขมเจือเขียวที่เป็นสายสนับสนุนทำให้ความเป็นโทนสบู่ฟุ้งอวลยิ่งคมชัดเข้าไปอีก สร้างออร่ากลิ่นเปิดแบบโทน Classic ได้อย่างเต็มที่และเปิดทางการเป็นกลิ่นอายสุภาพบุรุษสไตล์ Vintage ได้อย่างงดงามจริงๆ

การเปลี่ยนแปลงของกลิ่นจะมาแบบเนียนๆ พอสมควรเมื่อเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงกลางของน้ำหอม เพราะกลิ่นจะสลับเอาความเด่นมาที่กลิ่นสร้างออร่าความเป็นสุภาพบุรุษที่ติดขรึมและ Cool เข้าไปอีก โดยเฉพาะกลิ่นหนังและธูป Incense ที่จะแทรกตัวมาเดินกลิ่นแบบแพ็คคู่พร้อมกับเอาความเป็นโทนดอกไม้อย่างกุหลาบนวลๆ และดอกพุดครีมมี่หน่อยๆ กึ่ง Aromatic ติดหวานเจือควัน Smoky จากยาสูบและกลิ่น Birch Tar ที่เป็นกลิ่นติดเขม่าหน่อยๆ รวมถึงโทนไม้จันทน์หอมที่มีความกลมๆ เพราะมีกลิ่นโทน Spicy อย่างเม็ดจันทน์เทศเป็นตัวเกลาสร้างความนุ่มนวลของกลิ่นเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งโทนสบู่ฟุ้งอวลของ Aldehydes ในช่วงแรกยังคงตามมาในช่วงนี้แบบเป็นสายสนับสนุนที่สร้างความอวลอยู่ทำให้กลิ่นยังคุมโทนการเป็นกลิ่นอายสายสุภาพบุรุษสไตล์ Vintage ที่ซับซ้อนและมีความ Modern ที่น่าค้นหาเข้ามาร่วมด้วยจากสาย Incense ซึ่งเป็นการส่งเสริมกันและกันในการใช้งานที่ Mix & Match กันได้อย่างลงตัว

เมื่อโทน Aldehydes เริ่มผ่อนตัวลงและโทนสมุนไพรต่างๆ เริ่มจางไป ก็เริ่มเปลี่ยนสถานะการเป็นโทนกลิ่นที่มีความ Tribute ความดีงามของน้ำหอมสาย Vintage ของผู้ชายต่างๆ เช่น YSL - Kouros หรือ Chanel - Antaeus อยู่พอสมควร แต่จะมีความเป็นโทนออกทางตะวันออกมากกว่าหน่อย เพราะโทน Incense ติด Smoky และมียางไม้สาย Incense ที่ติดโทนหวานอบอุ่นกับโทนไม้หอมแห้งๆ ที่ยังคงเป็นตัวเด่นอยู่ จะเป็นตัวตัดทอนอย่างสมดุลย์ ทำให้กลิ่นไม่ได้ออกทาง Animalic ของ Musk และชะมดเช็ด (Civet) ที่ติดหนังไหม้ๆ ลึกๆ ของต่อมเพศบีเวอร์ (Castoreum) รวมถึงโทนหนังที่ยังเป็นตัวเดินกลิ่นจากช่วงกลางปล่อยเสน่ห์แบบที่ไม่จำเป็นต้องสาบเร้ามาก แต่ก็เอาอยู่ทุกดอกได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญกลิ่นโทน Oakmoss ที่ให้ความเป็นโทนเขียวขมกลิ่นคล้ายหมึกเล็กๆ เจือพิมเสนแบบสร้างความดึงดูดเย้าจมูกเข้ามาสร้างความดาร์กติดเท่ห์ร่วมด้วยในลักษณะของการเป็นน้ำหอมที่มีลูกเล่น Classic ยืนพื้น โดยแต่ละมิติเลเยอร์กลิ่นจะเข้ามาแบ่งเค้กเลยทำให้กลิ่นมีความสมดุลย์มากพอที่จะให้เสน่ห์ของโทนสาบปลุกเร้า Animalic และโทนน่าค้นหาในสไตล์ของสุภาพบุรุษที่ขรึมนิ่งได้ออกมาอย่างมีเสน่ห์มาก โดยคุมโทน Vintage ที่ติด Modern ได้ดีอยู่เสมอต้นเสมอปลาย ให้ภาพผู้ชายในชุดสูทที่หวีผมเรียบแปล้ที่มีความขรึม มีภูมิ ซับซ้อน และดูมีประสบการณ์ที่มีออร่Sex Appeal ที่ดึงดูดให้หันมองซ้ำเพราะความเท่ห์ Cool แบบมีชั้นเชิง ซึ่งนี่แหละความเป็น Nimitr ที่มีเสน่ห์ในความ Timeless ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวในทุกๆ ช่วงกลิ่นจริงๆ

เหมาะสำหรับ - ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป หรือถ้าจะเข้าถึงได้ง่ายขึ้นอย่างน้อยผ่านกลิ่นอายสาย Classic มาก่อนจะอินกับ Nimitr ได้ไม่ยากเลย ซึ่งกลิ่นนี้เข้ากับแทบทุกสถานการณ์ยามกลางวันแบบจำนวนสเปรย์พอเหมาะ เพราะกลิ่นมีความเข้มข้นและอวลพอสมควร ซึ่งไม่ว่าจะทางการหรือทั่วๆ ไปก็สามารถใช้ได้สบายมาก ยิ่งถ้ามาแนวหวีผมเรียบแปล้แบบใช้ Pomade กับการแต่งตัวทั้งทางการและเท่ห์ๆ ก็เข้าทางหมด จะมีก็แต่การใส่กิจกรรมกลางแจ้งแบบอากาศร้อนๆ และออกกำลังกายที่ข้ามไปจะดีกว่า ส่วนยามค่ำคืน ไม่ว่าจะออกงานหรือท่องราตรีสามารถใส่ได้สบายมากเพราะสร้างความ Unique ได้ไม่ยากเลย

ความทน - มากถึงมากที่สุด เพราะ 15 ชม. แล้วกลิ่นยังคงอยู่ เรียกว่าดีงามมากจริงๆ

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีและเสถียรมากจนถึงปลายช่วงกลางเลย พอพ้นไปซัก 5 ชม. กลิ่นจะกระจายปานกลางให้ความคงตัวไปเรื่อยๆ จนเมื่อผ่านไป 12 ชม. ถึงเป็นออร่ารอบๆ ตัว ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งในความดีงามเช่นกัน

สรุป - ให้ลองนึกภาพเหลียงเฉาเหว่ยในภาพยนตร์ของหว่องกาไวอย่าIn the Mood for Love และ 2046 + เสน่ห์จัดเต็มในเรื่อง Lust, Caution ของอั้งลี่ ซึ่งทุกอย่างบอกหมดเลยว่านี่แหละสุภาพบุรุษที่นิ่งขรึม ซับซ้อน มีเสน่ห์ และน่าค้นหาอย่างร้ายกาจมาก และ Nimitr ก็ทำให้เห็นภาพเฮียเหลียงออกมาในทันทีที่ใช้งานครั้งแรกจนถึงทุกๆ ครั้งที่ใช้มาเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเอามาประยุกต์กับความเป็นปัจจุบันบอกเลยว่านี่คืออีกหนึ่งกลิ่นที่ให้คำจำกัดความได้เลยว่า “Timless ที่ทันสมัยแบบมีชั้นเชิงและมีรากเหง้าที่เหนือกาลเวลาในการใช้งาน”

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์และเจ้าของแบรนด์ Parfum Prissana ที่สามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credithttps://www.facebook.com/parfumprissana/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น