วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

Review: Strangers Parfumerie - San Clemente


Strangers Parfumerie - San Clemente

จาก Oliver ที่สร้างความประทับใจในเนื้อกลิ่นและถ่ายทอดคาแรคเตอร์ได้อย่างหมดจดและมีชั้นเชิงของ Strangers Parfumerie กับการสร้างสรรค์น้ำหอมที่มีแรงบันดาลใจมาจากหนึ่งในตัวละครหลักของภาพยนตร์เรื่อง Call Me by Your Name ผ่าน Collection - LTBGIQ ที่ได้ผ่านการเล่ากลิ่นไปก่อนหน้านี้ ซึ่งแน่นอนเมื่อมี Oliver ก็ต้องมี Elio ที่เป็นอีกหนึ่งในตัวละครหลัก เช่นนั้น การเติมเต็มเพื่อ Tribute ผ่านกลิ่นที่จะสื่อสารถึงความเป็น Elio จึงแยกออกมาเพื่อบอกเล่าในมุมที่แตกต่างออกไป ซึ่งจะมีความพิเศษเฉพาะโดยการอ้างอิงถึงคำว่า San Clemente อยู่ในนิยายและภาพยนตร์เรื่องนี้

San Clemente Syndrome เป็นถ้อยคำที่บัญญัติขึ้นมาในนิยาย Call Me by Your Name ที่เป็นอาการอย่างหนึ่ง ที่ไม่อยากให้ตัวเองลืมความทรงจำที่ผ่านมาต่างๆ ซึ่งแม้ว่ามันจะเจ็บปวด แต่มันก็ช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตมาเสมอ เปรียบเสมือนเป็นการเก็บทุกสิ่งทุกอย่างในการเดินทางของเราผ่านช่วงเวลา และช่วงเวลานั้นๆ ก็เดินทางผ่านเรา ที่แม้บางทีอาจจะให้เราเจ็บปวดก็ตาม ซึ่ง Elio เองก็เก็บทุกอย่างที่เป็น Oliver ยามที่ได้อยู่ด้วยกันไว้ในความทรงจำของตัวเองและกรอเทปนั้นวนเวียนอยู่เพื่อไม่ให้ลืมไปตลอด

และการเล่าเรื่องราวผ่านกลิ่นที่เดินเข้าสู่ความทรงจำที่บอกถึงสิ่งที่เป็นตัวของ Elio ไม่พอ ยังเล่าเรื่องราวอารมณ์ที่ซับซ้อนต่างๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้นแบบนี้

หน้าเตาผิง - กลิ่นอาย Smoky ของการเผาไหม้ที่ลอยเข้ามาเป็นระยะๆ ไม่หนักหน่วงแต่มีความชัดเจนกับกลิ่นอายที่มีโทนติดนิ่งเย็นในอากาศ คือ พื้นฐานกลิ่นที่จะอยู่กันยาวๆ ตั้งแต่ต้นยันจบเป็น Background เสมือนเป็นสัญลักษณ์ทางกลิ่นสร้างความรู้สึกและสื่อสารถึงความทรงจำ ซึ่งมาเต็มถึงฉากสำคัญในช่วงท้ายของภาพยนตร์เลยทีเดียว

ความทรงจำของการพบเจอ - อารมณ์กลิ่นที่นอกเหนือจากกลิ่นอาย Smoky ของควันที่เป็นฐานกลิ่น สิ่งที่โดดเด่นมาเลยทีเดียวในช่วงแรกคือโทนกลิ่นที่คาบเกี่ยวระหว่างความเป็นโทนไวน์แดง เชอร์รี่ และผลไม้ที่ออกทางโทนสีแดงที่วูบเข้ามาก่อนเลย โดยเนื้อกลิ่นจะมีลักษณะอารมณ์แบบบรรยากาศหน้าร้อนหน่อยๆ ร่วมด้วย แต่วูบถัดมาสิ่งที่เข้ามาเสริมและตีคู่ไปกับโทนไวน์แดงและผลไม้คือ กาแฟดำ อารมณ์แบบกลิ่นเหมือนจะยังค่อนข้างมีความเป็นเอกเทศเป็นของตัวเองกันอยู่ ทำให้รู้สึกแบบเป็นความเห็นส่วนตัวในรูปแบบกลิ่นอายสัญลักษณ์ที่สื่อสารอยู่พอสมควร เช่น ไวน์แดง = อิตาลี และกาแฟ = อเมริกัน เลยเชื่อมโยงเข้ากับความเป็นช่วงเปิดตัวของน้ำหอมแบบที่เป็นความทรงจำของการพบปะกันครั้งแรกระหว่าง Elio (อิตาลี) และ Oliver (อเมริกัน) โดยที่ยังไม่ได้เข้ากันได้นัก แต่ทั้ง 2 โทนต่างมีความดึงดูดกันทั้งคู่ และยิ่งมีกลิ่นเชอร์รี่ที่บ่งบอกถึง Sex Appeal บางอย่างที่เพิ่มความดึงดูดเข้ามาร่วมด้วย เลยทำให้กลิ่นค่อนข้างชี้ชัดไปในเรื่องความดึงดูดและเย้ายวนเนียนไปกับกลิ่น Smoky ที่เป็นพื้นกลิ่นอย่างลงตัวและไม่เหมือนใคร

ความทรงจำของห้วงความรัก - เมื่อความรักเกิด การเปลี่ยนแปลงของโทนกลิ่นจึงเริ่มชัดเจนมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นไวน์แดงและกาแฟยังตามมาเป็นผู้เล่นในช่วงนี้ด้วย แต่จะมีกลิ่นโทนที่สร้างอารมณ์ดึงดูดเข้ามาอย่างยาสูบที่ติดหวานโปร่งเจือควันไอและโทนติดแป้ง Sexy อับบางๆ ดึงดูดของดอกไอริสที่มีโทนกลิ่นหนังเนียนๆ คลออยู่ ตามด้วยความโรแมนติคเนียนๆ ของกุหลาบ และมีโทนหวานผลไม้ปน Metallic ลึกล้ำเนียนๆ เข้ามาร่วมด้วยซึ่งจะจับต้องได้ถึงกลิ่นของลูกทับทิมและกลิ่นหวานอมเปรี้ยวหอมแนวๆ กึ่งพีชกึ่งแอปริคอต (ซึ่งเป็นเชิงสัญลักษณ์ในความเห็นส่วนตัวพอสมควร เพราะในเนื้อเรื่องภาพยนต์มีเรื่องเกี่ยวกับลูกพีชอยู่ด้วย) ซึ่งกลิ่นทั้งกาแฟและไวน์แดงจะเริ่มเป็นเนื้อเดียวกันให้อารมณ์สีแดงเข้มดาร์กเย้าและนัวและมีความอบอุ่นเนียนๆ เรียกว่าเป็นช่วงที่ทั้ง 2 คน ต่างปรับจูนและเข้าถึงกันและกันได้อย่างชัดเจน โดยที่จะมีห้วงอารมณ์กลิ่นที่เข้ามาร่วมผสมผสานสร้างลักษณะกลิ่นที่ได้ทั้งโทนโรแมนติคก็ได้ เย้ายวนค่อนไปทาง Sexy Erotic ก็ชัด และความลุ่มลึกของอารมณ์อบอุ่น ที่แกมความถวิลหาด้วยกลิ่นอาย Smoky ที่เป็นฉากหลังเคล้ากลิ่นที่ให้ลักษณะคล้ายกลิ่นหมึกขอOakmoss และหนังเข้มแต่ไม่ได้ออกทาง Animalic จัดๆ จะเริ่มเปิดตัวออกมาทีละหน่อยๆ

ความทรงจำของการร้างลาและความแหลกสลาย - สิ่งที่ค่อนข้างมีความเก๋อย่างหนึ่งในช่วงนี้เลย คือ โทน Smoky เริ่มจะมีความสตรองมากขึ้นและจะมีความดาร์กของโทนกลิ่นเข้ามาผสมผสานแบบพลิกเกมไปจากช่วงต้นๆ พอสมควร ซึ่งกลิ่นโทนหนังและ Oakmoss จะเริ่มสร้างออร่าความดาร์กมากขึ้นตามลำดับ โดนที่มีโทน Incense เป็นตัวสร้างความเศร้าในเนื้อกลิ่นได้อย่างชัดเจนมาก ซึ่งในบางวูบจะจับได้ถึงโทนสะอาดแบบเสื้อเชิ้ต (ที่เป็นกลิ่นสไตล์ Oliver) ที่วูบมาให้จับต้องได้บางๆ เคล้ากลิ่นไวน์แดงและกาแฟดำอ่อนๆ กลิ่นจะค่อนข้างอบอวลและซึมลึกในความรู้สึกในลักษณะโทนดาร์กแบบมีชั้นเชิงและมีลูกเล่นมิติอารมณ์กลิ่นที่ค่อนไปทางเศร้าและอวลอึนแบบที่ไม่ได้ถึงกับทำให้อึดอัด แล้วจะกลับมา Smoky ชัดๆ อีก วนกันไปมา ซึ่งทุกอย่างเหมือนเดินกลับมาที่จุดเริ่มต้นคือหน้าเตาผิงอีกครั้ง พร้อมกับกลิ่นอายที่ดาร์กอ้อยอิ่ง ค้าง และเป็นตะกอนในอารมณ์ที่ให้ความรู้สึกเศร้าสร้อย จนเมื่อเราได้หยิบน้ำหอมขวดนี้มาใส่อีกครั้งความ San Clemente Syndrome ก็จะวนเข้ามาหาอีกเรื่อยๆ แบบที่ Elio ไม่เคยลืมและไม่ยอมที่จะลืม Oliver ไปได้เลย และทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยลืมกันและกัน อ้างอิงจากบทสนทนานี้ในฉากคุยโทรศัพท์

Elio - Elio, Elio, Elio, Elio, Elio, Elio
Oliver - Oliver, I remember everything.

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย กลิ่นมีลักษณะแบบให้ความรู้สึกและอารมณ์ทางศิลปะเสียมากกว่าเลยทำให้ไม่มีการเจาะจงที่เพศใด และกลิ่นก็กลางๆ มากพอที่จะใส่ได้หมดทุกเพศ ซึ่งกลิ่นพอใส่กับยามทางการได้แบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม หรือใส่ทั่วๆ ไปเพื่อละเมียดไปกับอารมณ์กลิ่นที่สื่อออกมา แต่ให้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย ส่วนยามค่ำคืน เอาจริงๆ ถ้าไม่ได้ต้องอิงอารมณ์เดียวกับภาพยนตร์ สามารถใส่ออกงานหรือท่องราตรีได้ เพียงแต่กลิ่นจะออกทางโทนหม่นหน่อย ซึ่งถ้าเน้นใส่เพื่อความน่าค้นหาก็สามารถ

ความทน - มากกกกกก เรียกว่า 15 ชม. กลิ่นยังคงอยู่กันยาวๆ ซึ่งถ้าตีค่าเฉลี่ยสภาพผิวยังไงสามารถแตะได้ที่ 8 ชม. ได้ไม่ยาก

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีในตอนต้นแล้วจะค่อยๆ ผ่อนลงมาปานกลางกันยาวๆ และเสถียรน่าดูชมมาก จนเมื่อผ่านไป 6 ชม. ถึงลดลงมาเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ ไป จนเมื่อผ่าน 10 ชม. ไปแล้วถึงค่อยๆ เป็น Skin Scent ในที่สุด

สรุป - ถ้ามองในแง่ของคนที่ไม่เคยได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ นี่คืออีกหนึ่งกลิ่นที่มีความซับซ้อนและลูกเล่นในแต่ละช่วงกลิ่นที่ไม่ธรรมดา โดยมาสายกลิ่นอายสร้างความรู้สึกที่นิ่งอวลน่าค้นหาแต่ซับซ้อนหลากหลายอารมณ์ที่อยู่ภายใน ที่เป็นอีกหนึ่งในงานศิลปะที่แต่ละคนสามารถจับต้องได้แตกต่างกันและสร้างประสบการณ์การใช้น้ำหอมที่มีความเฉพาะตัวได้ดีมาก แต่ถ้ามองในแง่ของคนที่ได้ชมภาพยนต์มาแล้ว สิ่งที่ San Clemente ของ Strangers Parfumerie ได้นำเสนอ เริ่มจากจุดเริ่มต้นของกลิ่นจากฉากหน้าเตาผิง แล้วเดินเข้าสู่ความทรงจำขอElio ที่มี Oliver ในห้วงเวลาต่างๆ อยู่ในนั้น โดยมีอารมณ์และโทนกลิ่นที่มีความเศร้าที่ล้อมกลิ่นอยู่ตลอดในแต่ละช่วง รวมถึงบอกกลายๆ เกี่ยวกับคาแรคเตอร์ของ Elio ที่มีความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนในแต่ละห้วงความรู้สึกได้ดีมากในแต่ละช่วงกลิ่น ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นน้ำหอมที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

หมายเหตุ:

1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ ยกเว้นแบรนด์และเจ้าของแบรนด์ Strangers Parfumerie ที่สามารถนำไปใช้ได้ ในกรณีถ้าเจอว่ามีบุคคลนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมาย รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ”

Photo Credit - เข็มขัดสั้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น