Parfums de Marly - Layton
พระราชวังแวร์ซาย เป็นหนึ่งในสถานทีท่องเที่ยวชื่อดังมากทั้งในแง่มุมประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยตัวพระราชวังนั้นเรียกว่าหรูหราอลังการจัดเต็มเสมอ ซึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงและตกแต่งแบบทุ่มทุนสร้างของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จนได้ความสวยงามจนกลายเป็นมรดกโลกในทุกวันนี้ ซึ่งในแต่ละโซนของพระราชวังต่างก็เป็นจุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนมากมายให้ไปเยือนกันมานักต่อนัก
แล้วที่เกริ่นมานี่
เกี่ยวอะไรกับเรื่องน้ำหอม?
ก็เกี่ยวตรงที่สถานที่หนึ่งในพระราชวังแห่งนี้ได้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์น้ำหอมของแบรนด์
Niche ฝรั่งเศสอย่าง Parfums
de Marly ที่เน้นการสร้างสรรค์น้ำหอม Tribute ความรุ่งโรจน์ของยุคสมัยศตวรรษที่ 18 สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่
15 ของฝรั่งเศส ซึ่งในรุ่นที่กำลังจะเล่ากลิ่นนี้
ก็เอาสถานที่อย่าง Royal Court หรือศาลที่มีพระเจ้าแผ่นดินเป็นผู้ตัดสินโทษในอดีตที่แสดงถึงความหรูหรา
อลังการ และทรงพลัง เช่นนั้น มาลองกันหน่อยว่าจะเป็นยังไง
เปิดตัวมาจับต้องได้ชัดเจนเลยถึงลูกผสมระหว่างความเป็นโทน
Citrus และฟรุตตี้ผลไม้ที่ติดโทนเปรี้ยวเจือหวานที่มีกลิ่นเปรี้ยวเจือขมปร่าของมะกรูดฝรั่ง
(Bergamot) ต่อเนื่องติดหวานของส้ม
เคล้าความเป็นเปรี้ยวสดชื่นผลไม้ของแอปเปิ้ลเขียวเป็นฝากหนึ่ง
แต่อีกฟากหนึ่งคือเม็ดกระวานที่ให้ความหวานเผ็ดโปร่งเย้าเคล้ากับกลิ่นนวลลาเวนเดอร์ที่เป็นเลเยอร์ถัดมาในการจับกลิ่น
ซึ่งพอ 2 ฟากมาเจอกัน โทนกลิ่นจะได้อารมณ์แบบเย้ายวนและดึงดูด
ที่แอบให้อารมณ์สไตล์น้ำหอมชายสายเย้ายวนกึ่ง Bad Boy อยู่บ้างนิดหน่อย
แต่เนื่องจากพื้นกลิ่นที่เป็นฉากหลังมันแอบมีความเป็นแป้งหอมโปร่งๆ
และมีโทนอบอุ่นติดกึ่งแป้งหวานมีภูมิกำลังดีของวานิลลา เลยทำให้กลิ่นไม่ได้ไปสายเร้าใจมากเกินไป ยังมีความนวลอวลกำลังดีที่ให้ความสวยๆ
ในกลิ่น อารมณ์แบบน้ำหอม Designer ที่มีคุณภาพกลิ่นเยี่ยม
เบลด์ได้อย่างสมดุลย์ ไม่คมไม่หนักเกินไป จนกลายเป็น Niche ใช้ง่ายอะไรประมาณนี้
เมื่อการเปลี่ยนแปลงของกลิ่นเริ่มลดทอนความเป็นโทน
Citrus ลงเหลือเพียงประปราย
แต่แอปเปิ้ลเขียวและกวะวานยังคงยืนเด่นเป็นสง่าอยู่
และมีกลิ่นโทนติดแป้งติดเขียวโปร่งๆ มีโทนกุหลาบติดเขียวบางๆ เข้ามาสมทบ
ก็เป็นการเข้าสู่ช่วงกลางที่กลิ่นจะดำเนินไปในการที่ให้ความมีพลังของกลิ่นมากขึ้นตามความอวล
เพราะพื้นกลิ่นอย่างวานิลลาจะเริ่มเปิดตัวให้โทนอบอุ่นเข้ามาสมทบมากขึ้น
โดยที่มีกลิ่นอายพริกไทยที่สร้างความเผ็ดนวลเข้ามาร่วมด้วย
กลิ่นเลยจะได้เลเยอร์ที่ซ้อนกัน 3 สเต็ปคือ ผลไม้เคล้า Citrus
ตามด้วยกลิ่นแป้งเขียวหวานโปร่งปนดอกไม้ ก่อนปิดท้ายด้วย Spicy
วานิลาติดหวานที่มีกระวานและพริกไทยเป็นตัวสร้างความดึงดูดและความมีพลังที่ชัดเจนพอสมควร
เรียกว่าช่วงนี้คือไฮไลท์ในการปล่อยพลังทางกลิ่นกันเต็มๆ
จนเมื่อกลิ่นโทนแป้งโปร่งเขียวเจือดอกไม้เริ่มจางลงไปตามลำดับ
แต่กลิ่นโทนไม้หอมติดครีมจืดอย่างไม้จันทน์หอมเริ่มเปิดตัวเข้ามา
โดยมีกลิ่นไม้ติดควันเนียนๆ เบาๆ
เข้ามาสร้างมิติโทนไม้หอมในเนื้อกลิ่น ก็เปลี่ยนสถานะช่วงกลิ่นเป็นช่วงท้าย
ที่กลิ่นเริ่มจะเป็นลูกผสมของความเป็นวานิลลากับไม้หอมและพิมเสน
เสริมโทนสนับสนุนด้วยกลิ่นเครื่องเทศสาย Spicy อย่างกระวานและพริกไทย
โดยมทีกลิ่นฟรุตตี้แอปเปิ้ลเขียวประปรายบางๆ ซึ่งกลิ่นจะให้ความมีพลังอยู่ในระดับที่ไม่โฉ่งฉ่าง
มีความกำลังดี ซึ่งต้องยกให้ไม้จันทน์หอมกับพิมเสน และกลิ่นไม้ติด Smoky
หน่อยๆ ที่มาสร้างมิติหรูหราในเนื้อกลิ่นเข้ามาอีก
ทำให้เติมเต็มโทนกลิ่นที่มีความอบอวลให้มีลูกเล่นที่สร้างความมีระดับและมีคลาส
แบบไม่ได้ไปสายเย้าหนักจัดเต็ม แต่มีความเป็น Rich Tone ที่ให้อารมณ์สีนวลทองสว่างอบอุ่นเคล้าความหวานแบบกำลังดีได้อย่างลงตัวกันอย่างยาวไปในความเป็น
Layton นั่นเอง
เหมาะสำหรับ -
กลิ่นลงไว้ว่า Unisex แต่บอกเลยว่า
ไปสายผู้ชายไปราวๆ 85 - 90% ได้เลย
เพราะเนื้อกลิ่นช่วงต้นมันสร้างอารมณ์ติดผู้ชายเจ้าเสน่ห์ในระดับหนึ่ง
เพียงแต่มีระดับมากพอไม่ได้โจ่งแจ้งโฉ่งฉ่าง เรียกว่าหล่อแบบมีความหรูหราเนียนๆ
ประมาณนั้น ซึ่งถ้าผู้หญิงจะใช้ก็ได้อยู่เพราะมีวานิลลาเป็นตัวกลางๆ
เพียงแต่มันจะลุคแมนไปนิด อาจจะต้องดูเรื่องการแต่งตัวให้เข้านิดนึง
โดยกลิ่นนี้ใช้ได้ในหลายๆ สถานการณ์ยามกลางวันทั้งทางการและทั่วไปแบบจำนวนสเปรย์เหมาะสม
เพราะมันอบอวลปล่อยพลังอยู่พอสมควร แม้จะไม่คมเกินไป
แต่ถ้าใส่เยอะไปอาจจะจุกเอาได้ ซึ่งแน่นอนว่ากลิ่นนี้ตัดการใส่เพื่อกิจกรรมกลางแจ้งและออกกำลังกายไปได้เลย
ไม่เข้าทางแม้แต่นิดเดียว ส่วนยามค่ำคืนจัดไป ใส่ออกงาน ใส่ท่องราตรี ใส่โรแมนติค
ใส่สร้างความมีพลังติดเย้า ได้หมดเลย
ความทน -
ดีงามมาก เป็นจุดเด่นจริงๆ เพราะค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8 - 10 ชม. เป็นสำคัญในการใช้งาน
แต่ส่วนตัวเจอไปที่ 15 ชม. แทบทุกครั้งกับการใช้งานที่ 5
สเปรย์
การกระจาย -
กลิ่นกระจายดีในตอนต้น แล้วจะพีคขึ้นมาเป็นกระจายดีมากในช่วงกลางแบบอวลออกมาอย่างมีพลัง
เมื่อผ่านไปพอสมควรจะลดทอนลงมาเรื่อยๆ จนเมื่อเข้าช่วงท้ายถึงเป็นปานกลางไปซักพักใหญ่
แล้วจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวยาวไปเรื่อยๆ
สรุป -
เป็นน้ำหอมสาย Niche Perfume ที่ใช้ง่าย
เพราะมีกลิ่นอายแนว Designer Perfume สายดึงดูดที่เด่นด้วยเม็ดกระวาน
โทนฟรุตตี้แอปเปิ้ล และวานิลลาทั้งหลายไม่น้อย แต่เพราะคุณภาพกลิ่นที่มาเต็ม
มาชัดเจน เลยทำให้กลิ่นมีความหรูหราและละเมียดมากขึ้น
โดยที่คุมโทนความมีพลังแบบไม่หนักหน่วงหมื่นลี้เกินไปได้อย่างดีตั้งแต่ต้นยันจบ
เลยไม่แปลกใจว่าทำไมรุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ Popular ของแบรนด์นี้
หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้
ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!!
ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้
ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว
ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ
นะครับ”
Photo Credit - https://parfums-de-marly.com/men/32-145-layton.html
layton กลิ่นคล้าย tuscan leather ไหมคับ
ตอบลบ