วันพุธที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2563

Review: Lalique - Eau de Lalique


Lalique - Eau de Lalique

นอกจากขวดที่งามงดสมกับเป็นแบรนด์เครื่องแก้ว (โดยเฉพาะขวดสายคริสตัลที่งามสุดในโลกหล้ามากๆ) น้ำหอมของแบรนด์นี้ก็ไม่เป็2 รองใครด้วยเช่นกัน เพราะหลายๆ รุ่นต่างได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แต่มีน้ำหอมอยู่หนึ่งกลิ่น ที่เรียกว่าติดอันดับความหอมที่มาสายสดชื่นและยังกลิ่นงามลำดับต้นๆ ของแบรนด์อีกด้วย แต่ #เลิกผลิต ไปแล้วซะงั้น เช่นนั้นเพราะความดีงามของกลิ่นเราจึงตามหากันจนเจอ และขอเอามาเล่ากันหน่อยว่ากลิ่นของรุ่นนี้มีความดีงามในตัวอย่างไร นั่นก็คือรุ่น Eau de Lalique

เห็นภาพจาก Ad โฆษณาน้ำหอมตัวนี้ครั้งแรกกับคลื่นน้ำสดชื่นถาโถมใส่ขวดน้ำหอม ก็เดากันก่อนเลยว่ามาสาย Aquatic น้ำสดชื่นสุดติ่งแน่ๆ แต่เปล่าเลย กลิ่นที่เป็น Concept หลักเลยคือโทนเครื่องเทศและสมุนไพรเสียมากกว่า ซึ่งมีความเป็นโทน Aquatic แบบบางมากและอยู่ไม่นานด้วยเพราะมาในตอนช่วง Top Notes เท่านั้น กับการเป็นกลิ่นอายติดฉ่ำบางๆ ปน Citrus ที่จะให้ความเป็นโทนเปรี้ยวเจือขมและปร่าซ่าติดเขียวหน่อยๆ ของมะกรูดฝรั่ง (Bergamot) และมีโทนติดส้มเบาๆ ที่ฉ่ำอ่อนๆ ตามด้วยความรู้สึกหวานอ่อนๆ ปลายกลิ่นของเลมอน และที่สร้างทำให้กลิ่นช่วงต้นมีลักษณะติดโทน Cologne สดชื่นได้เลย แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะสาย Citrus ที่กล่าวมาเป็นแค่ครึ่งหนึ่งของช่วงต้นเท่าไหร่ เพราะตัวเอกหลักจริงๆ คือกลิ่นโทนสมุนไพรติดเครื่องเทศที่จะเด่นเต็มๆ ด้วยกลิ่นของผักชีลาวที่โทนกลิ่นฉุนๆ จะโดนตัดทอนโดยเม็ดกระวานและโทนติดเผ็ดแนวๆ พริกเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งเมื่อมาเจอกับสาย Citrus กลิ่นเลยจะผสมผสานกันจนกลายเป็นโทนเครื่องเทศเคล้าสมุนไพรติดเขียวที่ให้ความสดชื่นอะโรม่าติดคมๆ พุ่งๆ หน่อย แต่มีความสมดุลย์มากพอเพราะตัดทอนโทนด้อยซึ่งกันและกันจนทำให้กลิ่นมีความสดชื่นติดเขียว --> คมปร่า --> อะโรม่ารื่นจมูก ต่อเนื่องอารมณ์กลิ่นกันได้ดีมากจริงๆ

เมื่อความพุ่งของกลิ่นเริ่มลดทอนลงมา และมีการเข้ามาแท็คทีมร่วมด้วยจากโทนดอกไม้ กลิ่นก็เปลี่ยนสถานะในการเข้าสู่ Middle Notes ที่กลิ่นช่วงต้นจะยกโขยงกันลงมาหมด แต่ลดทอนความเป็นโทนสดชื่นของสาย Citrus เหลือเพียงเบาๆ แต่ยังมีความเปรี้ยวขมติดปร่าอ่อนๆ ขอมะกรูดฝรั่งที่ยังคงชัดเจนอยู่ สอดรับกับกลิ่นโทนเขียวสมุนไพรเคล้าเครื่องเทศจะลดมาเป็นกลิ่นเขียวนวลเจือหวานโปร่ง ซึ่งในเนื้อกลิ่นจะมีโทนดอกไม้ที่ให้โทนลักษณะเขียวเคล้ากลิ่นปร่านวลพริกไทยของดอกฟรีเซีย และแอบติดหวานแห้งๆ หน่อยๆ ของดอกชบา ที่มาเกลาให้กลิ่นมีความกลมสมดุลย์มากขึ้นในความเขียวนวลหวานปลายกลิ่นไปกันพอสมควร เนื้อกลิ่นจะเริ่มมีความอบอุ่นเจือหวานเครื่องเทศให้เริ่มจับต้องได้มากขึ้นจากอบเชยซึ่งกลิ่นจะไม่ได้หนักมากนักออกแนวให้ความเป็นพื้นหลังของกลิ่นเสียมากกว่า ทำให้กลิ่นจะมีทั้งความเขียวสมุนไพร ความหวานเครื่องเทศ ความนวลปนอบอุ่นของกลิ่นดอกไม้เคล้าอบเชยที่ผสมผสานกันอย่างสมดุลย์มากเลยทีเดียว จนเมื่อความอบอุ่นในเนื้อกลิ่นค่อยๆ เทคโอเวอร์ทีละหน่อยๆ แต่ยังคุมโทนกลิ่นที่ไม่หนักเกินไปให้ความอวลอ่อนๆ กำลังดี และกลิ่นเริ่มนุ่มมากขึ้นร่วมด้วยตามลำดับ ก็เป็นการเข้าสู่ Base Notes ที่โทน Musk จะเปิดตัวออกทางให้ความนุ่มนวลเคล้ากับกลิ่นโทนออกทางยางไม้ติดหวานอุ่นอ่อนๆ ของกำยาน Benzoin ที่กึ่งวานิลลาบางจัดๆ และมีโทนครีมมี่ไม้หอมนวลเบาๆ ของไม้จันทน์หอม กลิ่นในช่วงกลางจะตามมาเบาๆ จากโทนเขียวนวลทำให้กลิ่นจะเป็นโทนนุ่มสบายติดเขียวอมหวานปลายกลิ่นที่มีระดับ มีคลาส มีความรื่นรมย์สบายจมูก และมีความเรียบหรูติดมินิมัลที่ลงตัวไปเรื่อยๆ เป็นการปิดท้ายน้ำหอมกันยาวๆ บนผิวนั่นเอง

เหมาะสำหรับ - Unisex เลย เรียกว่าครอบจักรวาลการใช้งานสำหรับทุกเพศวัยตั้งแต่มหาลัยเป็นต้นไปได้เลย เนื้อกลิ่นอาจจะไพล่ไปทางผู้ชายมากกว่าหน่อยในช่วงต้น แต่ไม่นานก็เป็น Unisex กันยาวๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ยามกลางวันได้เลยไม่ว่าจะเป็นทางการหรือทั่วๆ ไป แถมให้ความเรียบหรูมีระดับได้อย่างดีงามเลยทีเดียว ส่วนยามค่ำคืนเดน้นใส่ออกงานหรือชิลล์ๆ จะดีที่สุด เพราะใส่ไปท่องราตรีมีสิทธิ์โดนกลบมิดเอาได้

ความทน - ราวๆ 6 - 8 ชม. อิงตามจำนวนสเปรย์และสภาพผิวกายผู้ใช้ด้วยส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนตัวเจอไปที่ 8 ชม. เป็นประจำในการใช้งานที่ 6 สเปรย์

การกระจาย - กลิ่นกระจายดีมากในตอนต้น แล้วจะลดลงมาปานกลางกันไปซักระยะ ก่อนจะเป็นออร่ารอบๆ ตัวกันยาวๆ พอพ้นซัก 6 ชม. ก็ Skin Scent

สรุป - ยอมกันเต็มๆ ว่าเป็นอีกหนึ่งกลิ่นของ Lalique ที่ทำออกมาได้ดีงามในการสร้างโทนสดชื่นที่แตกต่างและมีคลาส โดยที่ไม่ยึดติดกับการเป็นโทน Citrus จ๋าๆ หรือ Aquatic จ๋าๆ และเสียดายมากที่รุ่นนี้เลิกผลิตไปแล้ว ซึ่งก็แปลกใจของดีๆ ทำไมเลิกผลิตกันเสียจริง

หมายเหตุ:
1. Review นี้ มาจากประสบการณ์ใช้ส่วนบุคคล ถ้าใช้แล้วไม่เหมือนกับที่ผมเขียนเพราะน้ำหอมเวลาอยู่บนผิวแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไปได้ ซึ่งมันเป็นทั้งเสน่ห์เฉพาะและเป็นข้อเสียสำหรับคนที่ไม่ชอบในเวลาเดียวกัน
2. Review นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทหนึ่งที่กฎหมายรับรอง ห้าม!!! ผู้ใดจะเอาไปใช้อ้างอิงทางการพาณิชย์ นอกเหนือจากนั้นถ้าเจอว่าเอาไปใช้ ก็ต้องว่าตามบริบทของกฎหมายนะครับ รวมถึงกรณีเมื่อมีร้านไหนนำไปใช้ตามการอนุญาตแล้ว ก็ขอแจ้งว่า ”เข็มขัดสั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับการขายใดๆ ของร้านน้ำหอม/ผู้ขายคนนั้นๆ นะครับ”

Photo Credithttps://allparfume.by/lalique/eau_de_lalique.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น