วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Review: La Martina - Tierra del Fuego


La Martina - Tierra del Fuego

เห็น La Martina มาตั้ง Shop ในไทยแล้วแต่ยังไม่ได้ไปแวะเวียนเลยซึ่งชักอยากรู้ว่าจะมีน้ำหอมเข้ามาหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ดันได้มาเป็นของฝากจากเพื่อนที่พึ่งกลับจากยุโรปมาไม่นานเลยทำให้ชักอยากจะรีบไปดูที่ Shop มาก เพราะน้ำหอมรุ่น Tierra del Fuego ถือเป็นหนึ่งในรุ่นที่หักเหลี่ยมโหดไม่น้อยในแง่ของกลิ่นเลยทีเดียว เพราะ

นี่มันนนนนน Creed Aventus นี่หว่า กร๊ากกกกกกกก จริงๆ ครับ กลิ่นคล้ายมาก คล้ายจนผมตกใจเลย แต่หลังจากใช้จริง แม้ว่าจะใกล้เคียงเป็นฝาแฝดซะขนาดนั้น แต่ก็ยังมีความแตกต่างอยู่นิดนึง ซึ่งแน่นอนว่า Top Notes มาเต็มๆ กับกลิ่นโทนผลไม้ที่เด่นด้วยแบล็คเคอแรนท์และสับปะรด โดยจะมีกลิ่นแอปเปิ้ลเขียวและมะกรูดแบบติดเปลือก โดยแอบจับกลิ่นเมนทอลได้พอสมควรในช่วงนี้เลยทำให้กลิ่นจะมีความซ่าติดผลไม้ซึ่งมันใช่เลยล่ะนะ Aventus มาก ตอนฉีดนี่เผลอร้องออกมาเลย เฮ้ยยย! กรูฉีดผิดตัวหรือเปล่าวะเนี่ย 555555 แต่สิ่งหนึ่งที่จับได้เลยคือ กลิ่นจะไม่นุ่มนวลนัก จะมีความดิบๆ สากๆ อยู่พอสมควร ออกแนวเป็น Aventus ที่เปิดตัวเถื่อนๆ หน่อยนึง ไม่คุณชายจ๋าๆ นัก และเมื่อพอเข้าช่วง Middle Notes กลิ่นโทนผลไม้ตอนต้นจะดรอปลงมาจนเป็นพื้นหลังให้เปลือกไม้เบิร์ธปล่อยกลิ่นโทนหอมนุ่มติดเขียวกลั้วกับพิมเสน โดยมีโทนดอกไม้รองอยู่ด้านหลัง ซึ่งมันก็ Aventus อยู่ดี โดยที่แอบมีความต่างตรงที่กลิ่นอายพิมเสนจะไม่ได้เด่นนัก ออกแนวมาเบาๆ ไม่ได้หนักหน่วง ให้กลิ่นเขียวนุ่มๆ หอมนวลๆ ของเบิร์ธเด่น ซึ่งมันต่างน้อยไปนิดนะ 5555 และปิดท้ายที่ Base Notes งานนี้จับความต่างได้ชัดขึ้นมาก แม้ว่ากลิ่นช่วงนี้จะเด่นที่ Musk และวานิลลาแบบไลท์เวอร์ชั่น มีความเขียวแมนๆ ของ Oak Moss และมีกลิ่นอายจากช่วงกลางมาผสานทำให้ได้โทนนุ่มจมูกก็จริง แต่สิ่งหนึ่งคือช่วงนี้จะมีความ Smoky ของเนื้อกลิ่นเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งตัว Aventus จริงๆ จะไม่ค่อยมีกลิ่นโทน Smoky มาให้รู้สึก เพราะจะเป็นกลิ่นอายหอมแน่นๆ นุ่มเย้าแบบมีระดับของ Ambergris (อำพันปลาวาฬ) และหนังนุ่มๆ เสียมากกว่า ซึ่งตีวที่เล่าอยู่นี้ไม่มีกลิ่นนุ่มแบบนี้ เลยจับความต่างได้อยู่ในช่วงท้ายๆ แหละครับ ซึ่งภาพรวม ให้ตายเถอะ โรบิน! มัน Creed Aventus แบบออกแนวสากๆ ติดดิบๆ หน่อยๆ ไม่ได้หรูหราคุณชายมากขนาดนั้น ซึ่งชัดเจนว่าเอาความดีงามจาก Aventus มาปรับแต่งกันเห็นๆ เลยล่ะจ้า

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยเรียนมหาลัยขึ้นไป กลิ่นเข้าถึงได้ง่าย และหอมแบบดูดีเลย แม้จะแอบมีความดิบสากๆ ในเนื้อกลิ่นก็ตาม และใครชอบ Aventus แต่ไม่มีตังค์ซื้อเพราะมันแพงเหลือเกิน ก็จะเล่นตัวนี้ได้เลย เพราะถ้าไม่ได้ตั้งใจจะจับกลิ่นกันจริงๆ มันฝาแฝดชัดๆ สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวัน เพราะจะให้ความมีระดับและหรูหราแบบที่ Aventus ทำได้ไม่มีผิดเพี้ยน รวมถึงใส่ได้หมดทั้งทางการและไม่ทางการ ยังไงก็หอมแหละ ส่วนยามค่ำคืนจัดไปกับการออกงานจะดีที่สุด ใส่ไปเที่ยวพอได้ แต่ไม่ยั่วยวนอะไรนักก็เท่านั้น

ความทน – อันนี้แหละ ที่แตกต่างมาก เพราะ 6 ชม. กลิ่นก็เริ่มหายไปทีละหน่อยๆ จน 8 ชม. ก็หายต๋อมไปแล้ว ผิดกับ Aventus ที่ทนกว่ามาก

การกระจาย – อันนี้เป็นอีกอันที่แตกต่างเลยล่ะ กลิ่นกระจายดีในช่วงต้น และลดลงมากระจายปานกลางกึ่งออร่ารอบๆ ตัว และปิดท้ายที่ Skin Scent ผิดกับ Aventus ที่กระจายเป็นบาเรียหุ้มตัวไว้เลยและคงตัวการกระจายดีไปตลอดอย่างยาวนาว

ทิ้งท้าย – เอาไงล่ะทีนี้ เริ่มไปไม่เป็น มันเหมือนเกิ๊นนน 5555 ยังไงก็ตามแม้จะเหมือน Aventus แต่กลิ่นมันก็หอมเลยล่ะครับถ้าไม่ได้มานั่งจ้องจับผิดแบบผม แล้วราคามันถูกกว่า ตัวนี้ทดแทน Aventus ได้เลยล่ะครับ แหมมมม ต้องไป Shop แบรนด์นี้ซะแล้วสิเนี่ย 5555555

Credit ภาพhttp://lamartina.italart.it/wp-content/uploads/2014/01/TierradFuego_Pack.jpg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น