วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: Ferrari – Light Essence



Ferrari – Light Essence 

น้ำหอมจากแบรนด์รถยนต์หลายๆ ตัวนี่ทำออกมาได้เก๋ไก๋ไม่น้อยนะครับ กลิ่นอย่างน้อยก็ต้องตอบโจทย์คนที่ใช้รถยี่ห้อเขาอยู่แล้ว ไม่พอยังสามารถตอบโจทย์คนขับรถยี่ห้ออื่น นั่งรถตู้ รถเมล์ รถไฟ มอไซด์รับจ้าง เรือยนต์ เรือพาย ปั่นจักรยาน รวมถึงเดินชิลล์ๆ ก็ยังได้ เพราะจะเน้นในเรื่องความเข้าถึงง่ายเป็นหลัก เช่นนั้นมาเว่ากันในเรื่องของตัวเด่นของแบรนด์ Ferrari อย่าง Light Essence กันครับ ว่าจะตอบโจทย์ได้มากขนาดไหน ใช้แล้วจะแบบว่าดูไฮโซเหมือนคนขับ Ferrari หรือเปล่า?

เปิดต้น Top Notes กันด้วยกลิ่นของแอปเปิ้ลเขียวลอยอยู่ในน้ำเลมอนชัดเจน กลิ่นจะออก Fruity Citrus แบบกำลังดี ไม่คมบาดจมูก มีโทนสปอร์ตแฝงอยู่ในเนื้อกลิ่นพอสมควร บอกถึงความเป็นน้ำหอมผู้ชายชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อเข้าสู่ Middle Notes กลิ่นโทนสดชื่นแบบสปอร์ต กลั้วผลไม้เปรี้ยวๆ ยังคงอยู่ แต่มารวมตัวกับโทนดอกไม้อ่อนๆ กลิ่นจะออกทางนุ่มขึ้นพอสมควร แต่ไม่มีคำว่าสาวแตกแน่นอน กลิ่นออกทางนิ่งๆ อาจจะไม่ได้แตะคำว่ามีคลาสมากแบบใส่แล้วดูรวยขึ้นทันตาเห็น แต่ก็มีความหรูหราพอสมควร ซึ่งพอผันมาเป็นช่วง Base Notes ความสดชื่นบางๆ ยังพอให้จับได้ แต่จะมีกลิ่นวู้ดดี้อ่อนๆ เบาๆ กลั้วกับกลิ่นสะอาดของ Musk ที่ทำให้รู้สึกสบายๆ ชิลล์ๆ สดชื่นนุ่มๆ ไปจนกว่าจะหายไปจากผิวครับ

เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยตั้งแต่เรียน ม.ปลาย ขึ้นไปครับ กลิ่นให้ความรู้สึกกลางๆ ระหว่างหรูหราและสบายๆ ได้ดีเลยทีเดียว สามารถใส่ทำงาน ไปเรียน เดินเล่น เที่ยวโน่นนี่ Activities กลางแจ้ง รวมถึงออกกำลังกายได้หมด เพราะมีโทนสปอร์ตในเนื้อกลิ่น แต่ไม่ค่อยเหมาะกับยามกลางคืน เพราะกลิ่นอ่อนไปครับ ส่วนคุณผู้หญิง ถ้าชอบน้ำหอมผู้ชายสดชื่นกำลังดี ออกแมนแบบกลางๆ ตัวนี้ก็พอได้อยู่ถ้าสนใจจะลองนะครับ

ความทน – 6 ชม. ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 8 ชม. ครับ อยู่ที่เคมีเข้ากันได้กับผิวคนใส่ด้วยส่วนหนึ่ง แม้ว่าน้ำหอมจะหอมด้วยตัวมันเองก็ตาม ส่วนตัวผมอยู่ที่ 6 ชม. ในรูปแบบ Skin Scent แล้วค่อยๆ หายไปจากผิวก่อนถึง 8 ชม. ครับ

การกระจาย – Light Essence จะกระจายดีในช่วง Top ที่เหลือจะลดลงมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น Skin Scent ที่คนได้กลิ่นจะเป็นตัวผู้ใส่เป็นหลัก หรือไม่ก็อาจจะหายต๋อมไปพอขยับตัวกลิ่นบางๆ จะลอยขึ้นมาให้ได้กลิ่น หรืออาจจะไม่ได้กลิ่นแต่ให้ความรู้สึกสะอาดๆ ครับ

ทิ้งท้าย - ซึ่งถ้าบอกว่ากลิ่นนี้ใส่แล้วจะดูกลายเป็นไฮโซหรือหน้าตาดีขึ้นมาทันตาเห็นเพราะขับ Ferrari ก็ตอบโจทย์อยู่ไม่น้อยครับ เพราะกลิ่นน้ำหอมตัวนี้ออกโทนแมนสดชื่นและมีระดับที่หรูหรากำลังดีเข้ากับรถได้อยู่ ที่สำคัญการทำน้ำหอมออกมากลางๆ ที่สามารถใช้ได้กับทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะขับเองหรือโดยสารทุกประเภท จะยิ่งทำให้ Ferrari จับได้ทุกตลาดได้ไม่ยากเสียด้วยซ้ำไปครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น