Jean-Charles Brosseau - Collection Homme: The Brun
หลายๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยินแบรนด์นี้มาก่อน แต่ Jean-Charles Brosseau ถือเป็น 1 ใน Fashion Designer ที่เป็นเซเลปเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าแบบพรีเมี่ยมหรูหราและขาดไม่ได้เลย คือ น้ำหอม ซึ่งมีตัวโด่งดังระดับโลกเลยทีเดียวกับรุ่นของผู้หญิงอย่าง Ombre Rose L'Original ก่อนจะมีรุ่นผู้ชายออกมาที่จะมาจัดเต็มบ่งบอกถึงความหรูหราอย่างมีคลาสแบบเป็น Collection Homme เลย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ The Brun ครับ
เรียกได้ว่า The Brun เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่มีกลิ่นชาโดดเด่นหรูหรามีคลาสเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะจะให้ความรู้สึกเหมือนนักธุรกิจผู้ชายมีมาดมีภูมิและประสบความสำเร็จในชีวิต กลิ่นค่อนข้างเป็นการเป็นงานและทางการแบบมีระดับ ซึ่งแม้จะอ่านความรู้สึกข้างต้นแล้วจะดูเหมือนงานมโนมาเอง แต่กลิ่นมันสื่อออกทางนั้นจริงๆ เริ่มจาก Top Notes ที่เป็นการเปิดตัวกลิ่นที่ออกทางแน่นแต่ไม่หนัก ด้วยการผสานของโทนผลไม้อย่างสับปะรด มะกรูด เมล่อน กับโทนเครื่องเทศออกหวานอย่างอบเชยและเม็ดกระวาน ทำให้กลิ่นจะออกโทนนุ่มหวานข้นติดเขียวได้อย่างงามมาก กลิ่นมีมาดมีภูมิกันเต็มๆ ตั้งแต่แรกเริ่ม ก่อนที่กลิ่นของชาที่แหวกม่านออกมาโชว์ความเป็นพระเอกแบบหลบๆ ซ่อนๆ ผลุบๆ โผล่ๆ จับได้บางๆ ในช่วง Middle Notes ที่จะเริ่มเป็นกลิ่นโทนนุ่มนวลกลั้วกลิ่นดอกไม้เป็นฉากหลัง กลิ่นช่วงนี้ดอกส้มและไวโอเล็ตจะเต็มพอสมควร คงความหรูหราในเนื้อกลิ่นในเชิงออกทางแป้งนุ่มๆ มีระดับ และพระเอกของเราจะหยุดหลบๆ ซ่อนๆ เปิดตัวผ่างงง! ออกมาเต็มๆ ในช่วง Base Notes กับกลิ่นความเป็นชากลั้ววานิลลาที่มีความอบอุ่นของแอมเบอร์และหวานบางๆ ของเครื่องเทศนิดๆ รวมถึงมี Musk และกลิ่นโทนแป้งจากช่วงกลางมาเติมเต็มให้กลิ่นออกทางนุ่มนวลเหมือนชานมแบบร้อนหอมนุ่มจมูก กลิ่นให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปกลั้วกับความอบอุ่นที่ยังคงความหรูในเนื้อกลิ่นได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย
เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศวัยทำงานขึ้นไป ที่อยากได้น้ำหอมที่สร้างภาพลักษณ์ในการพบปะผู้คนครับ เพราะกลิ่นนี้จะเหมาะกับการใส่ไปทำงาน เข้าหาลูกค้า หรือผู้หลักผู้ใหญ่มาก กลิ่นให้ทั้งความรู้สึกน่าไว้วางใจ อบอุ่น ดูเป็นผู้ใหญ่ และเสริมบุคลิกแบบทางการที่จะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือได้มาก ซึ่งในโอกาสอื่นๆ เช่น ไปเกี้ยวแฟน หรือไปจีบสาวที่รวยกว่าซักคนก็เข้าทีอยู่ครับ แต่ไม่เหมาะกับการใส่เที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืนเลย กลิ่นทางการมากไป รวมถึงไม่เหมาะกับการใส่ออกกำลังกาย เพราะกลิ่นนี้จากที่สัมผัสไม่ถูกกับเหงื่อเลย เพราะเวลาร่างกายทำความร้อนและเหงื่อซก กลิ่นนี้เปลี่ยนสภาพเป็นกระจายดีเกินเหตุออกทางเขียวๆ ข้นๆ อาจจะทำให้คนรอบข้างเหวอรับประทานพลางอุดจมูกและถามได้ว่าไปทำอะไรมาถึงเหม็นเขียวได้ขนาดนี้ (โดนมาแล้วขอบอก -__-")
ความทน – 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ครับ
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในช่วง Top และจะลดระดับมาเป็นกระจายแบบหรูหรามีคลาสในระดับที่กำลังดี คนรอบข้างจะได้กลิ่นหอมอุ่นๆ อ่อนๆ หรูๆ จากผู้ใส่ไม่ว่าจะเป็นทั้ง Middle และ Base
ทิ้งท้าย – แม้ว่ากลิ่นจะหรูหรามีคลาสมากตามสไตล์น้ำหอมฝรั่งเศส แต่ราคาก็ไม่ได้หนักข้อ และราคาน่าเสียเงินซื้อไม่ใช่เล่นเลยนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น