Giorgio Armani - Acqua di Gio และ Acqua di Gio Essenza
คนใช้น้ำหอมทุกคนต่างก็ต้องรู้จักน้ำหอมในรูปเป็นอย่างดีแน่นอน เพราะเป็นหนึ่งในตัวฮอตฮิตติดลมบนสุดๆ มหาชนชอบ มหาชนใช้ แถมเป็นกลิ่นที่มีระดับกว่าบรรดาน้ำหอมประเภทเดียวกันอีกเสียด้วย นั่นคือน้ำหอมของ Giorgio Armani ตระกูล Acqua di Gio: AdG นั่นเอง
ไหนๆ มาพูดถึง AdG เลยขอมาเป็นแบบโรงหนังควบ 2 เรื่อง 2 ตัวในเวลาเดียวกันน่าจะง่ายกว่า เพราะโทนกลิ่นก็คล้ายคลึงกันอยู่แล้ว แต่มีจุดต่างกันหรือจุดไหนที่ต่อยอดมากขึ้นก็จัดกันตามนี้เลย
AdG ปกติจะมาในรูปแบบของ Aromatic Aquatic ที่จะเด่นที่ความสดชื่นเจ้าถึงง่ายแบบหนุ่มมาดดี ยิ้มง่าย สบายๆ มีเสน่ห์ และมีคลาสพอสมควร เพราะ Top Notes จะจัดเต็มกันในโทนสดชื่นของ Citrus กันเต็มๆ แต่มีเบรกความคมของกลิ่นด้วยมะลิและดอกส้ม ทำให้กลิ่นจะออกซิตรัสสดชื่นแอบนุ่มไปในตัว และจะส่งต่อความสดชื่นไปที่ช่วง Middle Notes ที่พระเอกของงานปรากฏตัวคือกลิ่นเชิงน้ำทะเลที่จะมีโทนผลไม้อย่างพีช โทน Floral เข้ามาตัดทำให้ไม่มีกลิ่นคาวทะเลอะไรเลยได้ความสดชื่นเต็มๆ ผสานกับความซ่าๆ ของโทน Spicy และนุ่มนวลของดอกไม้เป็นฉากหลังทำให้กลิ่นตอนนี้หอมกระจายสดชื่นมาก หวานบางๆ ใครๆ ได้กลิ่นมักชอบ “บาบว่า ผู้ชายคนนี้หอมจังเลยอ่ะ อยากไปดมใกล้ๆ จังเลย แอร๊ยยยย” ประมาณนั้น และจะปิดท้ายด้วย Base Notes ที่ออกโทนสะอาดติดอบอุ่นกำลังดีของโทนไม้หอมวูดดี้และมีไอเย็นๆ เย้าๆ ของพิมเสนมาตบให้เข้าที่ ครบถ้วนความหอมคลาสสิค สดชื่นแบบมีระดับกันแบบที่เรียกกันได้ง่ายๆ ว่า #ของดีเทคนิคไม่ต้อง นั่นเอง
AdG Essenza จะมาในรูปแบบของ Woody Aquatic เชื่อมโยงกับรุ่นปกติตรงโทนสดชื่น เพียงแต่เข้มข้นกว่าเพราะเป็น EDP กันเลยทีเดียว เปิด Top Notes ด้วยโทนกลิ่นน้ำสะอาดหอมๆ และกลิ่นซิตรัสที่ใกล้เคียงกับ AdG รุ่นปกติ กลิ่นในช่วงนี้จะสร้างความสดใสได้ดีมากจนถึง Middle Notes ที่จะแตกต่างจากต้นฉบับเพราะโทนของ Floral ดอกไม้นานามาทำให้กลิ่นในช่วงนี้เป็นโทนดอกไม้ในแบบผู้ชายที่ชัดเจนมากขึ้น โดยมีกลิ่นของโหระพามาตบให้กลิ่นแน่นหวานและเย้ายวนกำลังดี กระจายดีตามสเต็ปและเข้าถึงง่ายมากเลย และสุดท้ายที่ Base Notes ที่จะกลับมาเป็น AdG ปกติอีกครั้งแต่แน่นขึ้นด้วยโทนวู้ดดี้สะอาดสะอ้านสดชื่นติดดินแกล้มอบอุ่น มีอำพันทองมาทำให้กลิ่นทนมากขึ้นแน่นขึ้น และมีเคมีที่เรียกว่า Ambrox ที่เป็นตัวมาทำปฏิกิริยาเฉพาะกับผิวคนๆ นั้นให้หอมเฉพาะตัวยามฉีดตัวนี้ ซึ่งกลิ่นในช่วงนี้อาจจะเปลี่ยนกันไปตามแต่ละตัวบุคคล โดยยังยืนพื้นที่โทนสดชื่นแบบ Aquatic อยู่เป็นฉากหลัง เหมือนชายหนุ่มมาดดี นิ่งบ้าง ยิ้มละไมบ้าง มีความอบอุ่นในตัว ได้ทั้งความทางการและไม่ทางการ
เหมาะสำหรับ – ผู้ชายทุกเพศทุกวัยครับ ทั้ง 2 ตัวใช้ง่ายทั้งคู่ ในทุกๆ สถานการณ์ยามกลางวัน ไม่ว่าจะไปเรียน ไปทำงาน ไปเดินเที่ยวพักผ่อน ออกกำลังกายวิ่ง 4 คูณ 100 เมตรหรือวิ่งมาราธอนอื่นๆ เพราะกลิ่นผสานกับเหงื่อจะยังหอมมากทั้งคู่ เข้ากับอากาศบ้านเราสบายๆ โดยถ้าเป็น AdG Essenza จะเพิ่มตรงสามารถใส่ออกงานกับชุดสูทเท่ห์ๆ ได้ด้วยครับ ส่วนผู้หญิงถ้าคุณชอบน้ำหอมผู้ชาย 2 ตัวนี้ก็ตอบโจทย์สร้างลุคสปอร์ตให้คุณได้ดีเลยครับ
ความทน – AdG ปกติจะอยู่ที่ 6 – 8 ชม. เพราะเป็น EDT แต่ AdG Essenza จะอยู่ที่ 8 ชม. ขึ้นไป เพราะเป็น EDP ครับ
การกระจาย – กระจายดีมากทั้ง 2 ตัว ถือเป็น Sillage Scent ที่ปล่อยกลิ่นและเสน่ห์ได้ยาวนาน นวลเนียนในเนื้อกลิ่นได้ดีทั้ง 3 ระดับ อาจจะมีลดลงมาที่ Base แต่ไม่มากเท่าไหร่ กลิ่นยังกระจายดีอยู่
ทิ้งท้าย – ทั้ง 2 ตัวมีดีทั้งคู่ ซึ่งถ้าชอบความสดชื่นยาวนานแบบทะเลใสๆ AdG ปกติตอบโจทย์มาก แต่ถ้าชอบความสดชื่นในแบบละมุนด้วยดอกไม้ กลิ่นแน่นๆ ขึ้นในเชิงวู้ดดี้ AdG Essenza เข้าทางที่สุดครับ อยู่ที่ความชอบเป็นหลักเลย
คหสต. – AdG ปกติ ผมใช้แล้วลั่นล้าตลอด แต่ AdG Essenza ฉีดแต่ละครั้งกลิ่นจะแตกต่างกันไปพอสมควรครับ บางครั้งทำเอาเมา เพราะกลิ่น Floral ช่วงกลางผสานกับโหระพากลายเป็นกลิ่นนัวๆ เหมือนหมูเนื้อแดงกำลังตากแดดเดียวอยู่ จน Base กลับมาหอมอีกที บางครั้งจะหอมสดชื่นนุ่มนวลด้วยดอกไม้นานาพันธุ์กลั้วซิตรัสกำลังดี งงชีวิตอยู่ครับ แต่คงเป็นที่เคมีผมกับน้ำหอมด้วย เพราะคนอื่นลั่นล้าแฮปปี้กับตัว Essenza กันทุกคนที่ฉีดเลย รู้สึก Fail ยังไงก็ไม่รู้สิเนี่ย 555555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น