Jo Malone – Nectarine Blossom & Honey
สาวๆ และคนรักน้ำหอมต้องรู้จักแบรนด์นี้กันอย่างแน่นอน เพราะน้ำหอมที่ทำออกมานั้นถือว่าเป็นหนึ่งในใต้หล้าของความเป็นธรรมชาติ แถมเป็นแบรนด์น้ำหอมที่ชวนเสียตังค์มากที่สุดเลยแบรนด์นึง เพราะทุกกลิ่นมาเลเยอร์กันได้หมด แบบว่าหยิบตัวนี้มาฉีดกับตัวนี้ หยิบตัวนั้นมาผสมกับตัวนี้ เสียตังค์กันบานตะไทเอาเลยทีเดียว 5555 ซึ่งสบโอกาสเอาตัวที่ผมชอบมากเลยทีเดียวมาบอกเล่ากันครับนั่นคือ Nectarine Blossom & Honey
รุ่นนี้จั่วหัวว่าเป็น Unisex ที่ใช้ได้ทั้งหญิงและชาย ดังนั้นเปิดต้นกลิ่นกันด้วยความเป็นกลิ่นออกทาง Unisex ก่อนเลยกับกลิ่นของแบล็คเคอแรนท์ กับกลิ่นโทนเขียวๆ เหมือนสวนยามเช้าที่ชุ่มฉ่ำกำลังดี แต่จะเริ่มออกทางหญิงสาวเพราะกลิ่นของลูกท้อกับน้ำผึ้งกลั้วกับกลิ่นดอกไม้ออกทางแป้งในช่วง Middle Notes จะขึ้นมาเสริมเร็วมากจนทำให้กลิ่นนี้สดชื่นสดใส แบบสาววัยใสเลยครับ ผมใส่แล้วหลานชายตัวป่วนถึงกับแซวว่า “ลุงไม่เดินส่ายตรูดหน่อยเหรอ น้ำหอมกลิ่นผู้หญิงมาก” มันช่างน่าเตะนัก 555555 ซึ่งต้องยอมรับเลยครับว่า “สาวจริง อะไรจริง” หอมมากด้วยกับกลิ่นสดชื่นแกมหวานแบบนี้ ซึ่งทำเอางงไปเลย มัน Unisex ตรงไหนฟ่ะ แต่หลังจากผ่านพ้นช่วงความเป็นดรุณีแรกแย้มไปแล้วจึงได้เวลาของกลิ่นที่ผู้ชายจะสบายใจได้เวลาฉีดในช่วง Base Notes เพราะความเป็น Unisex เริ่มกลับมาเพราะโทนแป้งจากช่วงกลางจะมากลั้วไปกับกลิ่นของลูกพีชที่เด่นมากและหอมมากกกกกก มีกลิ่นลูกไหน (พลัม) เสริมให้กลิ่นพีชเด่นขึ้นกว่าเดิมอีก กลายเป็นแป้งหอมกลิ่นพีชฉ่ำๆ ไปเลย และยังได้อารมณ์สดชื่นแบบสะอาดๆ ธรรมชาติจากหญ้าแฝกเบาๆ อีกด้วย ทำให้กลิ่นนี้ให้อารมณ์สบายๆ รื่นรมย์กับกลิ่นตามธรรมชาติ และสดใสมากจริงๆ ครับ
เหมาะสำหรับ – สำหรับผมไม่เห็นจะ Unisex เลย 5555555 เพราะกลิ่นมันสาวนะนั่น ซึ่งจะเหมาะกับคุณผู้หญิงทุกวัยมากกว่าครับ สามารถใส่ได้ทุกสถานการณ์ยามกลางวันเลย เพราะกลิ่นสบายๆ สดใสเพิ่มความน่ารักให้คนใส่ได้มากจริงๆ ใส่ทำงานก็ได้ ใส่ไปเที่ยวเล่น ช้อปปิ้งตามประสาสาวๆ ก็ได้ กลิ่นให้ได้ทั้งความเป็นวัยรุ่นและความเป็นผู้หญิงได้เลยล่ะครับ ส่วนคุณผู้ชาย จริงๆ ก็ใส่ได้นะครับ บางวูบมันมีความเป็น Unisex แหละ ซึ่งถ้าชอบซะอย่างใส่ไปเหอะ ใครจะมองอย่างไงอย่าได้แคร์ หอมซะอย่าง
ความทน – เพราะเนื่องจากส่วนใหญ่ Jo Malone มักจะไม่ทนนัก แต่กลับรุ่นนี้ ผมฉีด 6 สเปรย์ทุกครั้งทั้งฉีดกับผิวและเสื้อด้านนอก กลิ่นทนเกิน 8 ชม. ทุกครั้ง แต่ยังไงก็ตามอยู่ที่เคมีด้วยส่วนหนึ่งนะครับ
การกระจาย – กลิ่นกระจายดีจริงๆ เลยในช่วง Top และ Middle ที่เวลาผมใส่อยู่บ้าน หลายๆ คนจะบอกว่า “กลิ่นลูกท้อมาแต่ไกลเลย” 55555555 แต่พอเป็นช่วง Base กลิ่นจะเป็นติดผิวจางๆ ตีขึ้นเป็นระยะๆ แบบกลิ่นพีชกำลังดี ซึ่งตรงนี้อยู่ที่เคมีด้วยตามเคย
ทิ้งท้าย – ส่วนตัวผมเองไม่ค่อยสนใจเรื่องการเลเยอร์น้ำหอมเลยทำให้ผมไม่ค่อยได้หาแบรนด์นี้มาใช้ เน้นแบ่งขายแบบเป็นตัวๆ ที่น่าสนใจแทน (จริงๆ กลัวเสียตังค์เยอะด้วยเพราะถ้าเผลอเลเยอ์แล้วชอบ ตายแน่ บ้านจนเอาได้ ราคาไม่ใช่ถูกๆ) แต่ถ้าใครชอบการเลเยอร์จัดไปครับ ตามสะดวกคร้าบบบบบบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น