วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

Review: L’Artisan Parfumeur - Tea for Two



L’Artisan Parfumeur - Tea for Two

กลับมาสู่น้ำหอมแบรนด์ Niche อย่าง L’Artisan Parfumeur อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าคุณภาพกลิ่นต้องจัดเต็มและเป็นที่น่าประทับใจแน่นอน ซึ่งรุ่นนี้ปัจจุบันเลิกผลิตแล้วนะครับ หายากเลยทีเดียว แถมเป็นน้ำหอมกลิ่นชาที่ดีที่สุดในโลกด้วยซ้ำ นั่นคือรุ่น Tea for Two ครับ 

น้ำหอมตัวนี้จะบ่งบอกอารมณ์ของจิบชายามบ่ายที่ชัดเจนมากครับ แบบว่าเป็นช่วงว Tea Break แบบหรูหรากันเลยทีเดียว เพราะ Top Notes จะให้อารมณ์ของชาที่มีกลิ่นออกทางหวานชัดเจนกับกลิ่นของโป๊ยกั๊กที่เสริมเข้ามา โดยมีความสดชื่นบางๆ ของมะกรูด กลิ่นจะให้อารมณ์ชิลล์ๆ กำลังดี และนุ่มนวลในแบบชาเข้มๆ ติดหวาน ก่อนที่ช่วง Middle Notes จะเสริมขึ้นมาทำให้กลิ่นชาในช่วงต้นกลายเป็นกลิ่นเดียวกับชาที่เรียกว่า Chai Tea ที่เป็นชาเข้มๆ ใส่ผงอบเชยเยอะๆ มีกลิ่นโทนเครื่องเทศเสริมเข้าไป และจะมีกลิ่นขิงและขนมปังขิงมาผสมผสานกันกลายเป็นชายามบ่ายกลั้วของว่างละเมียดแบบผู้ดี๊ ผู้ดีจริงๆ นะ กลิ่นจะออกโทนอบอุ่นชัดเจน มีความแน่นแต่ไม่หนัก ให้อารมณ์แบบผู้ใหญ่ใจดีอบอุ่นน่าเข้าใกล้ในรูปแบบที่มีคลาสในเนื้อกลิ่นมากมาย เมื่อเข้าสู่ช่วง Base Note กลิ่นชาจะเปลี่ยนมาเป็นกลิ่นชาอ่อนๆ ใส่น้ำผึ้งหอมๆ มีกลิ่นวานิลลานุ่มๆ จางๆ ให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นในยามบ่ายในเมืองหนาว (อย่าเป็นยามบ่ายในบ้านเมืองเราเด็ดขาดไม่สามารถอบอุ่นได้จริงๆ มีแต่โคตรร้อน) และมีใบยาสูบมาทำให้กลิ่นนุ่มนวลหรูหรามีคลาสกำลังดีมากจริงๆ คือฉีดแล้วได้อารมณ์แบบนั่งอยู่ในสวนจิบชาแบบผู้ดีอังกฤษหอมละมุน นั่งคุยกันแบบผู้ใหญ่ที่มีความสุขในชีวิตยังไงยังงั้นเลย

เหมาะสำหรับ – น้ำหอมตัวนี้เป็น Unisex ที่สามารถใช้ได้ทุกเพศครับ กลิ่นไปได้หมดทั้งความเป็นทางการและความไม่เป็นทางการในรูปแบบที่หรูๆ นิ่งๆ หน่อย ไม่ใช่ใส่ตัวนี้ไปเต้นรากแตก มันก็คงไม่ใช่นัก และให้อารมณ์ที่เป็นผู้ใหญ่ในเนื้อกลิ่นอย่างมาก จึงสามารถใส่ไปทำงาน ใส่ไปพักผ่อนแบบชิลล์ๆ ที่ออกไปในเชิงหรูๆ หน่อย ยิ่งถ้าใส่ออกงานทางการต่างๆ ยิ่งเข้าทีเพราะกลิ่นสร้างความภูมิฐานมากครับ อ้อ เที่ยวกลางคืน กรุณาเถิด กลิ่นไม่เข้ากันเล๊ยยยย

ความทน – ประมาณ 8 ชม. ขึ้นไปสบายๆ ครับ

การกระจาย – กลิ่นกระจายดีมากในช่วง Top และจะลดระดับมาเป็นรอบๆ ตัวในช่วง Middle และ Base โดยคนใส่สามารถรับรู้กลิ่นได้ตลอดเวลา แต่คนอื่นจะได้กลิ่นอบอุ่น อ่อนโยนกำลังดีครับ

ทิ้งท้าย – กลิ่นนี้จำเป็นต้องลองก่อน แม้มันจะหายากก็เถอะ เพราะกลิ่นชาใส่เครื่องเทศอย่างอบเชยและขนมปังขิง บางทีอาจจะไม่ถูกจริต ไม่คุ้น และอาจจะเข้าถึงยากกับจมูกแบบคนไทยที่อยากได้กลิ่นออกทางชานมเย็นใส่ไข่มุกมากกว่า ยิ่งถ้าอากาศร้อนจัดๆ และต้องอยู่กลางแจ้งเป็นหลัก กลิ่นอาจจะต้องระวังในการใส่นิดนึงครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น